หน้านี้ได้รับการแปลโดย Cloud Translation API

การซ้อนทับที่กําหนดเอง

เลือกแพลตฟอร์ม: Android iOS JavaScript

บทนำ

การวางซ้อนคือออบเจ็กต์บนแผนที่ที่เชื่อมโยงกับพิกัดละติจูด/ลองจิจูด จึงจะเลื่อนเมื่อคุณลากหรือซูมแผนที่ ดูข้อมูลเกี่ยวกับประเภทการซ้อนทับที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้ที่การวาดบนแผนที่

Maps JavaScript API มีคลาส OverlayView สำหรับ สร้างการวางซ้อนที่กำหนดเอง OverlayView เป็นคลาสพื้นฐานที่ มีเมธอดหลายอย่างที่คุณต้องใช้เมื่อสร้างการซ้อนทับ นอกจากนี้ คลาสยังมีเมธอดบางอย่างที่ช่วยให้สามารถแปลระหว่างพิกัดบนหน้าจอและตำแหน่งบนแผนที่ได้

เพิ่มการซ้อนทับที่กำหนดเอง

สรุปขั้นตอนที่ต้องทำเพื่อสร้างการซ้อนทับที่กำหนดเองมีดังนี้

ตั้งค่า prototype ของออบเจ็กต์การซ้อนทับที่กำหนดเองเป็นอินสแตนซ์ใหม่ของ google.maps.OverlayView() ซึ่งจะทำให้คลาสนี้เป็นคลาสย่อยของคลาสการวางซ้อน
สร้างตัวสร้างสำหรับการซ้อนทับที่กำหนดเอง และตั้งค่าพารามิเตอร์การเริ่มต้น
ใช้onAdd()ในต้นแบบของคุณ และแนบการวางซ้อน กับแผนที่ ระบบจะเรียกใช้ OverlayView.onAdd() เมื่อแผนที่พร้อมสำหรับ การแนบภาพซ้อน
ใช้draw()เมธอดภายในต้นแบบและจัดการการแสดงผลภาพของออบเจ็กต์ ระบบจะเรียกใช้ OverlayView.draw() เมื่อแสดงออบเจ็กต์เป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ คุณควรใช้onRemove()วิธีล้างองค์ประกอบ ที่คุณเพิ่มไว้ในการซ้อนทับด้วย

ด้านล่างนี้คือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแต่ละขั้นตอน คุณดูโค้ดตัวอย่างที่ใช้งานได้ทั้งหมดได้โดยดูโค้ดตัวอย่าง

สร้างคลาสย่อยของการวางซ้อน

ตัวอย่างด้านล่างใช้ OverlayView เพื่อสร้างการซ้อนทับรูปภาพอย่างง่าย

ตอนนี้เราจะสร้างตัวสร้างสำหรับคลาส USGSOverlay และเริ่มต้นพารามิเตอร์ที่ส่งผ่านเป็นพร็อพเพอร์ตี้ของออบเจ็กต์ใหม่

TypeScript

/**
 * The custom USGSOverlay object contains the USGS image,
 * the bounds of the image, and a reference to the map.
 */
class USGSOverlay extends google.maps.OverlayView {
  private bounds: google.maps.LatLngBounds;
  private image: string;
  private div?: HTMLElement;

  constructor(bounds: google.maps.LatLngBounds, image: string) {
    super();

    this.bounds = bounds;
    this.image = image;
  }index.ts

JavaScript

/**
 * The custom USGSOverlay object contains the USGS image,
 * the bounds of the image, and a reference to the map.
 */
class USGSOverlay extends google.maps.OverlayView {
  bounds;
  image;
  div;
  constructor(bounds, image) {
    super();
    this.bounds = bounds;
    this.image = image;
  }index.js

ขณะนี้เรายังแนบภาพซ้อนนี้กับแผนที่ในเครื่องมือสร้างภาพซ้อนไม่ได้ ก่อนอื่น เราต้องตรวจสอบว่าบานหน้าต่างทั้งหมดของแผนที่พร้อมใช้งาน เนื่องจากบานหน้าต่างเหล่านี้จะ ระบุลำดับที่ออบเจ็กต์แสดงบนแผนที่ API มี เมธอดตัวช่วยที่ระบุว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เราจะพูดถึงวิธีดังกล่าวในส่วนถัดไป

เริ่มต้นการซ้อนทับ

เมื่อสร้างอินสแตนซ์ของโอเวอร์เลย์เป็นครั้งแรกและพร้อมแสดงผล เราต้องแนบโอเวอร์เลย์กับแผนที่ผ่าน DOM ของเบราว์เซอร์ API ระบุว่าได้เพิ่มภาพซ้อนทับลงในแผนที่แล้วโดยการเรียกใช้เมธอด onAdd() ของภาพซ้อนทับ ในการจัดการเมธอดนี้ เราจะสร้าง <div> เพื่อเก็บรูปภาพ เพิ่มองค์ประกอบ <img> แนบองค์ประกอบดังกล่าวกับ <div> แล้วแนบภาพซ้อนทับกับ pane ของแผนที่ บานหน้าต่าง คือโหนดภายในแผนผัง DOM

บานหน้าต่างประเภท MapPanes จะระบุ ลำดับการซ้อนสำหรับเลเยอร์ต่างๆ บนแผนที่ บานหน้าต่างต่อไปนี้พร้อมใช้งานและแสดงตามลำดับการวางซ้อนจากล่างขึ้นบน

mapPane คือเลเยอร์ล่างสุดและอยู่เหนือไทล์ ซึ่งอาจไม่ได้รับเหตุการณ์ DOM (แผง 0)
overlayLayer มีเส้นหลายเส้น รูปหลายเหลี่ยม การวางซ้อนพื้น และการวางซ้อนเลเยอร์ไทล์ และอาจไม่ได้รับเหตุการณ์ DOM (แผง 1)
markerLayer มีเครื่องหมาย และอาจไม่ได้รับเหตุการณ์ DOM (แผง 2)
overlayMouseTarget มีองค์ประกอบที่รับเหตุการณ์ DOM (แผง 3)
floatPane มีหน้าต่างข้อมูล โดยจะอยู่เหนือการซ้อนทับแผนที่ทั้งหมด (บานหน้าต่าง 4)

เนื่องจากรูปภาพของเราเป็น "ภาพซ้อนทับพื้น" เราจึงจะใช้แผง overlayLayer เมื่อ เรามีบานหน้าต่างนั้นแล้ว เราจะแนบออบเจ็กต์ของเราเป็นออบเจ็กต์ย่อย

TypeScript

/**
 * onAdd is called when the map's panes are ready and the overlay has been
 * added to the map.
 */
onAdd() {
  this.div = document.createElement("div");
  this.div.style.borderStyle = "none";
  this.div.style.borderWidth = "0px";
  this.div.style.position = "absolute";

  // Create the img element and attach it to the div.
  const img = document.createElement("img");

  img.src = this.image;
  img.style.width = "100%";
  img.style.height = "100%";
  img.style.position = "absolute";
  this.div.appendChild(img);

  // Add the element to the "overlayLayer" pane.
  const panes = this.getPanes()!;

  panes.overlayLayer.appendChild(this.div);
}index.ts

JavaScript

/**
 * onAdd is called when the map's panes are ready and the overlay has been
 * added to the map.
 */
onAdd() {
  this.div = document.createElement("div");
  this.div.style.borderStyle = "none";
  this.div.style.borderWidth = "0px";
  this.div.style.position = "absolute";

  // Create the img element and attach it to the div.
  const img = document.createElement("img");

  img.src = this.image;
  img.style.width = "100%";
  img.style.height = "100%";
  img.style.position = "absolute";
  this.div.appendChild(img);

  // Add the element to the "overlayLayer" pane.
  const panes = this.getPanes();

  panes.overlayLayer.appendChild(this.div);
}index.js

วาดภาพซ้อนทับ

โปรดทราบว่าเราไม่ได้เรียกใช้การแสดงภาพพิเศษใดๆ ในโค้ดด้านบน API จะเรียกใช้เมธอด draw() แยกต่างหากในภาพซ้อนทับทุกครั้งที่ต้องวาด ภาพซ้อนทับบนแผนที่ รวมถึงเมื่อเพิ่มเป็นครั้งแรก

ดังนั้นเราจะใช้draw()วิธีนี้เพื่อดึงข้อมูลภาพซ้อนMapCanvasProjectionโดยใช้ getProjection() และคำนวณพิกัดที่แน่นอน เพื่อยึดจุดบนขวาและล่างซ้ายของออบเจ็กต์ จากนั้นเราจะปรับขนาด <div> ได้ ซึ่งจะปรับขนาดรูปภาพให้ตรงกับขอบเขตที่เราระบุไว้ในตัวสร้างของการวางซ้อน

TypeScript

draw() {
  // We use the south-west and north-east
  // coordinates of the overlay to peg it to the correct position and size.
  // To do this, we need to retrieve the projection from the overlay.
  const overlayProjection = this.getProjection();

  // Retrieve the south-west and north-east coordinates of this overlay
  // in LatLngs and convert them to pixel coordinates.
  // We'll use these coordinates to resize the div.
  const sw = overlayProjection.fromLatLngToDivPixel(
    this.bounds.getSouthWest()
  )!;
  const ne = overlayProjection.fromLatLngToDivPixel(
    this.bounds.getNorthEast()
  )!;

  // Resize the image's div to fit the indicated dimensions.
  if (this.div) {
    this.div.style.left = sw.x + "px";
    this.div.style.top = ne.y + "px";
    this.div.style.width = ne.x - sw.x + "px";
    this.div.style.height = sw.y - ne.y + "px";
  }
}index.ts

JavaScript

draw() {
  // We use the south-west and north-east
  // coordinates of the overlay to peg it to the correct position and size.
  // To do this, we need to retrieve the projection from the overlay.
  const overlayProjection = this.getProjection();
  // Retrieve the south-west and north-east coordinates of this overlay
  // in LatLngs and convert them to pixel coordinates.
  // We'll use these coordinates to resize the div.
  const sw = overlayProjection.fromLatLngToDivPixel(
    this.bounds.getSouthWest(),
  );
  const ne = overlayProjection.fromLatLngToDivPixel(
    this.bounds.getNorthEast(),
  );

  // Resize the image's div to fit the indicated dimensions.
  if (this.div) {
    this.div.style.left = sw.x + "px";
    this.div.style.top = ne.y + "px";
    this.div.style.width = ne.x - sw.x + "px";
    this.div.style.height = sw.y - ne.y + "px";
  }
}index.js

นำการซ้อนทับที่กำหนดเองออก

นอกจากนี้ เรายังเพิ่มonRemove()วิธีนำภาพซ้อนออกจากแผนที่อย่างหมดจดด้วย

TypeScript

/**
 * The onRemove() method will be called automatically from the API if
 * we ever set the overlay's map property to 'null'.
 */
onRemove() {
  if (this.div) {
    (this.div.parentNode as HTMLElement).removeChild(this.div);
    delete this.div;
  }
}index.ts

JavaScript

/**
 * The onRemove() method will be called automatically from the API if
 * we ever set the overlay's map property to 'null'.
 */
onRemove() {
  if (this.div) {
    this.div.parentNode.removeChild(this.div);
    delete this.div;
  }
}index.js

ซ่อนและแสดงภาพซ้อนทับที่กำหนดเอง

หากต้องการซ่อนหรือแสดงภาพซ้อนทับแทนที่จะสร้างหรือนำออก คุณสามารถใช้เมธอด hide() และ show() ของคุณเองเพื่อปรับ ระดับการมองเห็นของภาพซ้อนทับ หรือคุณจะแยกเลเยอร์ซ้อนออกจาก DOM ของแผนที่ก็ได้ แต่ การดำเนินการนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเล็กน้อย โปรดทราบว่าหากคุณแนบ โอเวอร์เลย์กับ DOM ของแผนที่อีกครั้ง ระบบจะเรียกใช้เมธอด onAdd() ของโอเวอร์เลย์อีกครั้ง

ตัวอย่างต่อไปนี้จะเพิ่มเมธอด hide() และ show() ลงในต้นแบบของภาพซ้อนทับ ซึ่งจะสลับระดับการมองเห็นของคอนเทนเนอร์ <div> นอกจากนี้ เรายังเพิ่มเมธอด toggleDOM() ซึ่งจะแนบหรือถอดเลเยอร์ซ้อนทับออกจากแผนที่

TypeScript

/**
 *  Set the visibility to 'hidden' or 'visible'.
 */
hide() {
  if (this.div) {
    this.div.style.visibility = "hidden";
  }
}

show() {
  if (this.div) {
    this.div.style.visibility = "visible";
  }
}

toggle() {
  if (this.div) {
    if (this.div.style.visibility === "hidden") {
      this.show();
    } else {
      this.hide();
    }
  }
}

toggleDOM(map: google.maps.Map) {
  if (this.getMap()) {
    this.setMap(null);
  } else {
    this.setMap(map);
  }
}index.ts

JavaScript

/**
 *  Set the visibility to 'hidden' or 'visible'.
 */
hide() {
  if (this.div) {
    this.div.style.visibility = "hidden";
  }
}
show() {
  if (this.div) {
    this.div.style.visibility = "visible";
  }
}
toggle() {
  if (this.div) {
    if (this.div.style.visibility === "hidden") {
      this.show();
    } else {
      this.hide();
    }
  }
}
toggleDOM(map) {
  if (this.getMap()) {
    this.setMap(null);
  } else {
    this.setMap(map);
  }
}index.js

เพิ่มตัวควบคุมปุ่ม

มีการเพิ่มตัวควบคุมปุ่มลงในแผนที่เพื่อเรียกใช้เมธอด toggle และ toggleDom

TypeScript

const toggleButton = document.createElement("button");

toggleButton.textContent = "Toggle";
toggleButton.classList.add("custom-map-control-button");

const toggleDOMButton = document.createElement("button");

toggleDOMButton.textContent = "Toggle DOM Attachment";
toggleDOMButton.classList.add("custom-map-control-button");

toggleButton.addEventListener("click", () => {
  overlay.toggle();
});

toggleDOMButton.addEventListener("click", () => {
  overlay.toggleDOM(map);
});

map.controls[google.maps.ControlPosition.TOP_RIGHT].push(toggleDOMButton);
map.controls[google.maps.ControlPosition.TOP_RIGHT].push(toggleButton);index.ts

JavaScript

const toggleButton = document.createElement("button");

toggleButton.textContent = "Toggle";
toggleButton.classList.add("custom-map-control-button");

const toggleDOMButton = document.createElement("button");

toggleDOMButton.textContent = "Toggle DOM Attachment";
toggleDOMButton.classList.add("custom-map-control-button");
toggleButton.addEventListener("click", () => {
  overlay.toggle();
});
toggleDOMButton.addEventListener("click", () => {
  overlay.toggleDOM(map);
});
map.controls[google.maps.ControlPosition.TOP_RIGHT].push(toggleDOMButton);
map.controls[google.maps.ControlPosition.TOP_RIGHT].push(toggleButton);index.js

โค้ดตัวอย่างที่สมบูรณ์

โค้ดตัวอย่างที่สมบูรณ์อยู่ด้านล่าง

TypeScript

// This example adds hide() and show() methods to a custom overlay's prototype.
// These methods toggle the visibility of the container <div>.
// overlay to or from the map.

function initMap(): void {
  const map = new google.maps.Map(
    document.getElementById("map") as HTMLElement,
    {
      zoom: 11,
      center: { lat: 62.323907, lng: -150.109291 },
      mapTypeId: "satellite",
    }
  );

  const bounds = new google.maps.LatLngBounds(
    new google.maps.LatLng(62.281819, -150.287132),
    new google.maps.LatLng(62.400471, -150.005608)
  );

  // The photograph is courtesy of the U.S. Geological Survey.
  let image = "https://developers.google.com/maps/documentation/javascript/";

  image += "examples/full/images/talkeetna.png";

  /**
   * The custom USGSOverlay object contains the USGS image,
   * the bounds of the image, and a reference to the map.
   */
  class USGSOverlay extends google.maps.OverlayView {
    private bounds: google.maps.LatLngBounds;
    private image: string;
    private div?: HTMLElement;

    constructor(bounds: google.maps.LatLngBounds, image: string) {
      super();

      this.bounds = bounds;
      this.image = image;
    }

    /**
     * onAdd is called when the map's panes are ready and the overlay has been
     * added to the map.
     */
    onAdd() {
      this.div = document.createElement("div");
      this.div.style.borderStyle = "none";
      this.div.style.borderWidth = "0px";
      this.div.style.position = "absolute";

      // Create the img element and attach it to the div.
      const img = document.createElement("img");

      img.src = this.image;
      img.style.width = "100%";
      img.style.height = "100%";
      img.style.position = "absolute";
      this.div.appendChild(img);

      // Add the element to the "overlayLayer" pane.
      const panes = this.getPanes()!;

      panes.overlayLayer.appendChild(this.div);
    }

    draw() {
      // We use the south-west and north-east
      // coordinates of the overlay to peg it to the correct position and size.
      // To do this, we need to retrieve the projection from the overlay.
      const overlayProjection = this.getProjection();

      // Retrieve the south-west and north-east coordinates of this overlay
      // in LatLngs and convert them to pixel coordinates.
      // We'll use these coordinates to resize the div.
      const sw = overlayProjection.fromLatLngToDivPixel(
        this.bounds.getSouthWest()
      )!;
      const ne = overlayProjection.fromLatLngToDivPixel(
        this.bounds.getNorthEast()
      )!;

      // Resize the image's div to fit the indicated dimensions.
      if (this.div) {
        this.div.style.left = sw.x + "px";
        this.div.style.top = ne.y + "px";
        this.div.style.width = ne.x - sw.x + "px";
        this.div.style.height = sw.y - ne.y + "px";
      }
    }

    /**
     * The onRemove() method will be called automatically from the API if
     * we ever set the overlay's map property to 'null'.
     */
    onRemove() {
      if (this.div) {
        (this.div.parentNode as HTMLElement).removeChild(this.div);
        delete this.div;
      }
    }

    /**
     *  Set the visibility to 'hidden' or 'visible'.
     */
    hide() {
      if (this.div) {
        this.div.style.visibility = "hidden";
      }
    }

    show() {
      if (this.div) {
        this.div.style.visibility = "visible";
      }
    }

    toggle() {
      if (this.div) {
        if (this.div.style.visibility === "hidden") {
          this.show();
        } else {
          this.hide();
        }
      }
    }

    toggleDOM(map: google.maps.Map) {
      if (this.getMap()) {
        this.setMap(null);
      } else {
        this.setMap(map);
      }
    }
  }

  const overlay: USGSOverlay = new USGSOverlay(bounds, image);

  overlay.setMap(map);

  const toggleButton = document.createElement("button");

  toggleButton.textContent = "Toggle";
  toggleButton.classList.add("custom-map-control-button");

  const toggleDOMButton = document.createElement("button");

  toggleDOMButton.textContent = "Toggle DOM Attachment";
  toggleDOMButton.classList.add("custom-map-control-button");

  toggleButton.addEventListener("click", () => {
    overlay.toggle();
  });

  toggleDOMButton.addEventListener("click", () => {
    overlay.toggleDOM(map);
  });

  map.controls[google.maps.ControlPosition.TOP_RIGHT].push(toggleDOMButton);
  map.controls[google.maps.ControlPosition.TOP_RIGHT].push(toggleButton);
}

declare global {
  interface Window {
    initMap: () => void;
  }
}
window.initMap = initMap;index.ts

JavaScript

// This example adds hide() and show() methods to a custom overlay's prototype.
// These methods toggle the visibility of the container <div>.
// overlay to or from the map.
function initMap() {
  const map = new google.maps.Map(document.getElementById("map"), {
    zoom: 11,
    center: { lat: 62.323907, lng: -150.109291 },
    mapTypeId: "satellite",
  });
  const bounds = new google.maps.LatLngBounds(
    new google.maps.LatLng(62.281819, -150.287132),
    new google.maps.LatLng(62.400471, -150.005608),
  );
  // The photograph is courtesy of the U.S. Geological Survey.
  let image = "https://developers.google.com/maps/documentation/javascript/";

  image += "examples/full/images/talkeetna.png";
  /**
   * The custom USGSOverlay object contains the USGS image,
   * the bounds of the image, and a reference to the map.
   */
  class USGSOverlay extends google.maps.OverlayView {
    bounds;
    image;
    div;
    constructor(bounds, image) {
      super();
      this.bounds = bounds;
      this.image = image;
    }
    /**
     * onAdd is called when the map's panes are ready and the overlay has been
     * added to the map.
     */
    onAdd() {
      this.div = document.createElement("div");
      this.div.style.borderStyle = "none";
      this.div.style.borderWidth = "0px";
      this.div.style.position = "absolute";

      // Create the img element and attach it to the div.
      const img = document.createElement("img");

      img.src = this.image;
      img.style.width = "100%";
      img.style.height = "100%";
      img.style.position = "absolute";
      this.div.appendChild(img);

      // Add the element to the "overlayLayer" pane.
      const panes = this.getPanes();

      panes.overlayLayer.appendChild(this.div);
    }
    draw() {
      // We use the south-west and north-east
      // coordinates of the overlay to peg it to the correct position and size.
      // To do this, we need to retrieve the projection from the overlay.
      const overlayProjection = this.getProjection();
      // Retrieve the south-west and north-east coordinates of this overlay
      // in LatLngs and convert them to pixel coordinates.
      // We'll use these coordinates to resize the div.
      const sw = overlayProjection.fromLatLngToDivPixel(
        this.bounds.getSouthWest(),
      );
      const ne = overlayProjection.fromLatLngToDivPixel(
        this.bounds.getNorthEast(),
      );

      // Resize the image's div to fit the indicated dimensions.
      if (this.div) {
        this.div.style.left = sw.x + "px";
        this.div.style.top = ne.y + "px";
        this.div.style.width = ne.x - sw.x + "px";
        this.div.style.height = sw.y - ne.y + "px";
      }
    }
    /**
     * The onRemove() method will be called automatically from the API if
     * we ever set the overlay's map property to 'null'.
     */
    onRemove() {
      if (this.div) {
        this.div.parentNode.removeChild(this.div);
        delete this.div;
      }
    }
    /**
     *  Set the visibility to 'hidden' or 'visible'.
     */
    hide() {
      if (this.div) {
        this.div.style.visibility = "hidden";
      }
    }
    show() {
      if (this.div) {
        this.div.style.visibility = "visible";
      }
    }
    toggle() {
      if (this.div) {
        if (this.div.style.visibility === "hidden") {
          this.show();
        } else {
          this.hide();
        }
      }
    }
    toggleDOM(map) {
      if (this.getMap()) {
        this.setMap(null);
      } else {
        this.setMap(map);
      }
    }
  }

  const overlay = new USGSOverlay(bounds, image);

  overlay.setMap(map);

  const toggleButton = document.createElement("button");

  toggleButton.textContent = "Toggle";
  toggleButton.classList.add("custom-map-control-button");

  const toggleDOMButton = document.createElement("button");

  toggleDOMButton.textContent = "Toggle DOM Attachment";
  toggleDOMButton.classList.add("custom-map-control-button");
  toggleButton.addEventListener("click", () => {
    overlay.toggle();
  });
  toggleDOMButton.addEventListener("click", () => {
    overlay.toggleDOM(map);
  });
  map.controls[google.maps.ControlPosition.TOP_RIGHT].push(toggleDOMButton);
  map.controls[google.maps.ControlPosition.TOP_RIGHT].push(toggleButton);
}

window.initMap = initMap;index.js

CSS

/* 
 * Always set the map height explicitly to define the size of the div element
 * that contains the map. 
 */
#map {
  height: 100%;
}

/* 
 * Optional: Makes the sample page fill the window. 
 */
html,
body {
  height: 100%;
  margin: 0;
  padding: 0;
}

.custom-map-control-button {
  background-color: #fff;
  border: 0;
  border-radius: 2px;
  box-shadow: 0 1px 4px -1px rgba(0, 0, 0, 0.3);
  margin: 10px;
  padding: 0 0.5em;
  font: 400 18px Roboto, Arial, sans-serif;
  overflow: hidden;
  height: 40px;
  cursor: pointer;
}
.custom-map-control-button:hover {
  background: rgb(235, 235, 235);
}
style.css

HTML

<html>
  <head>
    <title>Showing/Hiding Overlays</title>

    <link rel="stylesheet" type="text/css" href="./style.css" />
    <script type="module" src="./index.js"></script>
  </head>
  <body>
    <div id="map"></div>

    <!-- 
      The `defer` attribute causes the script to execute after the full HTML
      document has been parsed. For non-blocking uses, avoiding race conditions,
      and consistent behavior across browsers, consider loading using Promises. See
      https://developers.google.com/maps/documentation/javascript/load-maps-js-api
      for more information.
      -->
    <script
      src="https://maps.googleapis.com/maps/api/js?key=AIzaSyB41DRUbKWJHPxaFjMAwdrzWzbVKartNGg&callback=initMap&v=weekly"
      defer
    ></script>
  </body>
</html>index.html

ลองใช้ตัวอย่าง

JSFiddle.net Google Cloud Shell