ข้อกำหนดของเมตาแท็ก robots, data-nosnippet และ X-Robots-Tag
เอกสารนี้แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้การตั้งค่าระดับหน้าเว็บและระดับข้อความในการปรับลักษณะที่ Google แสดงเนื้อหาในผลการค้นหา คุณระบุการตั้งค่าระดับหน้าเว็บได้โดยใส่เมตาแท็กไว้ในหน้า HTML หรือในส่วนหัว HTTP และระบุการตั้งค่าระดับข้อความได้ด้วยแอตทริบิวต์ data-nosnippet
ในเอลิเมนต์ HTML ภายในหน้าเว็บ
โปรดทราบว่าระบบจะอ่านการตั้งค่าและทำตามได้ต่อเมื่อโปรแกรมรวบรวมข้อมูลได้รับอนุญาตให้เข้าถึงหน้าเว็บที่มีการตั้งค่าดังกล่าวเท่านั้น
แท็กหรือคำสั่ง <meta name="robots" content="noindex">
มีผลกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหา หากต้องการบล็อกโปรแกรมรวบรวมข้อมูลที่ไม่ใช่การค้นหา เช่น AdsBot-Google
คุณอาจต้องเพิ่มคำสั่งที่มุ่งเป้าไปยังโปรแกรมรวบรวมข้อมูลนั้นโดยเฉพาะ (เช่น <meta name="AdsBot-Google" content="noindex">
)
การใช้เมตาแท็ก robots
เมตาแท็ก robots ช่วยให้คุณใช้วิธีการที่ละเอียดและเจาะจงหน้าเว็บเพื่อควบคุมวิธีที่ระบบจัดทำดัชนีหน้าเว็บหนึ่งๆ และแสดงต่อผู้ใช้ในผลการค้นหาของ Google Search วางเมตาแท็ก robots ไว้ในส่วน <head>
ของหน้าเว็บนั้น ดังนี้
<!DOCTYPE html> <html><head> <meta name="robots" content="noindex"> (…) </head> <body>(…)</body> </html>
ในตัวอย่างนี้ เมตาแท็ก robots สั่งเครื่องมือค้นหาว่าอย่าแสดงหน้าเว็บดังกล่าวในผลการค้นหา ค่าของแอตทริบิวต์ name
(robots
) ระบุว่าคำสั่งนี้มีผลกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูลทั้งหมด หากต้องการกล่าวถึงโปรแกรมรวบรวมข้อมูลที่เจาะจง ให้ระบุชื่อของโปรแกรมรวบรวมข้อมูลที่จะกล่าวถึงแทนค่า robots
ของแอตทริบิวต์ name
โปรแกรมรวบรวมข้อมูลที่เจาะจงเรียกอีกอย่างว่า User Agent (โปรแกรมรวบรวมข้อมูลใช้ User Agent เพื่อขอหน้าเว็บ) โปรแกรมรวบรวมข้อมูลเว็บมาตรฐานของ Google มี User Agent ชื่อ Googlebot
หากไม่ต้องการให้แค่ Googlebot เท่านั้นจัดทำดัชนีข้อมูลหน้าเว็บ ให้อัปเดตแท็กตามนี้
<meta name="googlebot" content="noindex">
แท็กนี้จะบอก Google ไม่ให้แสดงหน้านี้ในผลการค้นหาเว็บ ทั้งแอตทริบิวต์ name
และ content
ไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่
เครื่องมือค้นหาอาจมีโปรแกรมรวบรวมข้อมูลที่แตกต่างกันสำหรับวัตถุประสงค์ต่างๆ ดูรายชื่อโปรแกรมรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของ Google ตัวอย่างเช่น หากต้องการแสดงหน้าเว็บในผลการค้นหาเว็บของ Google แต่ไม่แสดงใน Google News ให้ใช้เมตาแท็กต่อไปนี้
<meta name="googlebot-news" content="noindex">
หากต้องการระบุโปรแกรมรวบรวมข้อมูลจำนวนมากทีละโปรแกรม ให้ใช้เมตาแท็ก robots หลายรายการ ดังนี้
<meta name="googlebot" content="noindex"> <meta name="googlebot-news" content="nosnippet">
หากต้องการบล็อกการจัดทำดัชนีทรัพยากรที่ไม่ใช่ HTML เช่น ไฟล์ PDF, ไฟล์วิดีโอ หรือไฟล์ภาพ ให้ใช้ส่วนหัวการตอบกลับ X-Robots-Tag
แทน
การใช้ส่วนหัว HTTP ของ X-Robots-Tag
คุณใช้ X-Robots-Tag
เป็นเอลิเมนต์การตอบสนองของส่วนหัว HTTP สำหรับ URL หนึ่งๆ ได้ คำสั่งที่ใช้ในเมตาแท็ก robots ได้ก็ระบุเป็น X-Robots-Tag
ได้เช่นกัน ต่อไปนี้คือตัวอย่างการตอบสนองของ HTTP ที่มี X-Robots-Tag
ซึ่งห้ามไม่ให้โปรแกรมรวบรวมข้อมูลจัดทำดัชนีหน้าเว็บ
HTTP/1.1 200 OK Date: Tue, 25 May 2010 21:42:43 GMT (…) X-Robots-Tag: noindex (…)
คุณจะใส่ส่วนหัว X-Robots-Tag
หลายรายการไว้รวมกันภายในการตอบสนองของ HTTP หรือระบุรายการคำสั่งที่คั่นด้วยคอมมาก็ได้ ต่อไปนี้คือตัวอย่างการตอบสนองของส่วนหัว HTTP ที่มี noarchive
X-Robots-Tag
รวมอยู่กับ unavailable_after
X-Robots-Tag
HTTP/1.1 200 OK Date: Tue, 25 May 2010 21:42:43 GMT (…) X-Robots-Tag: noarchive X-Robots-Tag: unavailable_after: 25 Jun 2010 15:00:00 PST (…)
X-Robots-Tag
อาจระบุ User Agent ก่อนคำสั่ง เช่น คุณใช้ชุดส่วนหัว HTTP ของ X-Robots-Tag
ต่อไปนี้เพื่ออนุญาตให้แสดงหน้าเว็บตามเงื่อนไขในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาที่ต่างกันได้
HTTP/1.1 200 OK Date: Tue, 25 May 2010 21:42:43 GMT (…) X-Robots-Tag: googlebot: nofollow X-Robots-Tag: otherbot: noindex, nofollow (…)
คำสั่งที่ระบุโดยไม่มี User Agent นั้นจะมีผลกับโปรแกรมรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ส่วนหัว HTTP, ชื่อ User Agent และค่าที่ระบุไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่
คำสั่งที่ถูกต้องสำหรับการจัดทำดัชนีและการแสดงผล
คำสั่งต่อไปนี้ใช้ควบคุมการจัดทำดัชนีและการแสดงผลตัวอย่างร่วมกับเมตาแท็ก robots และ X-Robots-Tag
ได้ ตัวอย่างภายในผลการค้นหาคือข้อความสรุปที่ใช้เพื่อแสดงความเกี่ยวข้องของเอกสารกับการค้นหาของผู้ใช้ ตารางต่อไปนี้แสดงคำสั่งทั้งหมดที่ Google ทำตาม รวมถึงความหมายของคำสั่ง แต่ละค่าแสดงถึงคำสั่งหนึ่งๆ คุณรวมคำสั่งหลายรายการไว้ในรายการที่คั่นด้วยคอมมาหรือในเมตาแท็กแยกต่างหากได้ คำสั่งเหล่านี้ไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่
คำสั่ง | |
---|---|
|
ไม่มีข้อจำกัดในการจัดทำดัชนีหรือแสดงผล คำสั่งนี้เป็นค่าเริ่มต้นและไม่มีผลใดๆ หากมีการระบุไว้อย่างชัดเจน |
|
อย่าแสดงหน้า สื่อ หรือทรัพยากรนี้ในผลการค้นหา หากไม่ระบุคำสั่งนี้ หน้า สื่อ หรือทรัพยากรนั้นอาจได้รับการจัดทำดัชนีและแสดงในผลการค้นหา หากต้องการนำข้อมูลออกจาก Google โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำทีละขั้นตอน |
|
อย่าไปที่ลิงก์ในหน้านี้ หากไม่ระบุคำสั่งนี้ Google อาจใช้ลิงก์ในหน้าเพื่อค้นพบหน้าเว็บที่เชื่อมโยงเหล่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ nofollow
|
|
เทียบเท่ากับ noindex, nofollow
|
|
อย่าแสดงลิงก์ที่แคชไว้ในผลการค้นหา หากไม่ระบุคำสั่งนี้ Google อาจสร้างหน้าที่แคชไว้และผู้ใช้อาจเข้าถึงหน้าดังกล่าวได้ผ่านผลการค้นหา |
|
อย่าแสดงช่องค้นหาไซต์ลิงก์ในผลการค้นหาสำหรับหน้านี้ หากไม่ระบุคําสั่งนี้ Google อาจสร้างช่องค้นหาเฉพาะสําหรับเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหา รวมถึงลิงก์อื่นๆ ที่ไปยังเว็บไซต์ของคุณโดยตรง |
|
อย่าแสดงตัวอย่างข้อความหรือวิดีโอในผลการค้นหาสำหรับหน้านี้ ภาพขนาดย่อแบบนิ่ง (หากมี) อาจยังมองเห็นได้อยู่หากทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานดีขึ้น คำสั่งนี้มีผลต่อผลการค้นหาทุกรูปแบบ (ใน Google ค้นเว็บ, Google รูปภาพ, Discover) หากไม่ระบุคำสั่งนี้ Google อาจสร้างตัวอย่างข้อความและวิดีโอตามข้อมูลที่พบในหน้า |
|
Google ได้รับอนุญาตให้จัดทําดัชนีเนื้อหาของหน้าเว็บหากฝังในหน้าอื่น
ผ่าน
|
|
ใช้ตัวอย่างข้อความที่มีอักขระไม่เกิน [จำนวน] ตัวสำหรับผลการค้นหานี้ (โปรดทราบว่า URL อาจแสดงเป็นผลการค้นหาหลายรายการในหน้าผลการค้นหา) ข้อกำหนดนี้ไม่มีผลต่อการแสดงตัวอย่างรูปภาพหรือวิดีโอ ค่านี้มีผลต่อผลการค้นหาทุกรูปแบบ (เช่น Google ค้นเว็บ, Google รูปภาพ, Discover, Assistant) อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดนี้จะไม่มีผลในกรณีที่ผู้เผยแพร่เนื้อหาอนุญาตให้ใช้เนื้อหาแยกต่างหาก ตัวอย่างเช่น หากผู้เผยแพร่เนื้อหาแสดงเนื้อหาในรูปแบบข้อมูลที่มีโครงสร้างในหน้าเว็บหรือมีข้อตกลงการอนุญาตให้ใช้สิทธิกับ Google การตั้งค่านี้จะไม่รบกวนการใช้งานที่ได้รับอนุญาตซึ่งมีความเจาะจงมากกว่า ระบบจะละเว้นคำสั่งนี้หากไม่มีการระบุ [จำนวน] ที่แยกวิเคราะห์ได้ หากไม่ระบุคำสั่งนี้ Google จะเลือกความยาวของตัวอย่าง ค่าพิเศษ
ตัวอย่าง หากต้องการหยุดแสดงตัวอย่างในผลการค้นหา <meta name="robots" content="max-snippet:0"> หากต้องการอนุญาตให้แสดงอักขระในตัวอย่างได้สูงสุด 20 อักขระ <meta name="robots" content="max-snippet:20"> หากต้องการระบุว่าไม่จำกัดจำนวนอักขระที่แสดงในตัวอย่างได้ <meta name="robots" content="max-snippet:-1"> |
|
กำหนดขนาดสูงสุดของตัวอย่างรูปภาพสำหรับหน้าเว็บนี้ในผลการค้นหา
หากไม่ระบุคำสั่ง ค่า [การตั้งค่า] ที่ยอมรับมีดังนี้
ค่านี้มีผลต่อผลการค้นหาทุกรูปแบบ (เช่น Google ค้นเว็บ, Google รูปภาพ, Discover, Assistant) อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดนี้จะไม่มีผลในกรณีที่ผู้เผยแพร่เนื้อหาอนุญาตให้ใช้เนื้อหาแยกต่างหาก ตัวอย่างเช่น หากผู้เผยแพร่เนื้อหาให้เนื้อหาในรูปแบบข้อมูลที่มีโครงสร้างในหน้าเว็บ (เช่น เวอร์ชัน AMP และ Canonical ของบทความ) หรือมีข้อตกลงการอนุญาตให้ใช้สิทธิกับ Google การตั้งค่านี้จะไม่รบกวนการใช้งานที่ได้รับอนุญาตซึ่งมีความเจาะจงมากกว่า
หากไม่ต้องการให้ Google ใช้ภาพขนาดย่อที่ใหญ่ขึ้นเมื่อหน้า AMP และเวอร์ชัน Canonical ของบทความแสดงใน Search หรือ Discover ให้ระบุค่า ตัวอย่าง <meta name="robots" content="max-image-preview:standard"> |
|
ใช้ตัวอย่างวิดีโอที่มีความยาวไม่เกิน [จำนวน] วินาทีสำหรับวิดีโอในหน้านี้ในผลการค้นหา
หากไม่ระบุคำสั่ง ค่าพิเศษ
ค่านี้มีผลต่อผลการค้นหาทุกรูปแบบ (ใน Google ค้นเว็บ, Google รูปภาพ, Google วิดีโอ, Discover, Assistant) ระบบจะละเว้นคำสั่งนี้หากไม่มีการระบุ [จำนวน] ที่แยกวิเคราะห์ได้ เช่น <meta name="robots" content="max-video-preview:-1"> |
|
อย่าเสนอคำแปลของหน้านี้ในผลการค้นหา หากไม่ระบุคำสั่งนี้ เมื่อมีผลการค้นหาที่ไม่ใช่ภาษาที่ใช้ค้นหา Google อาจแปลลิงก์ชื่อและตัวอย่างของผลการค้นหานั้น หากผู้ใช้คลิกลิงก์ชื่อที่แปลแล้ว การโต้ตอบทุกอย่างที่ผู้ใช้ทำกับหน้าเว็บต่อจากนั้นจะทำผ่าน Google แปลภาษา ซึ่งจะแปลลิงก์ทั้งหมดที่ตามมาโดยอัตโนมัติ |
|
อย่าจัดทำดัชนีรูปภาพที่อยู่ในหน้านี้ หากไม่ระบุค่านี้ รูปภาพที่อยู่ในหน้าเว็บอาจได้รับการจัดทำดัชนีและแสดงในผลการค้นหา |
|
อย่าแสดงหน้านี้ในผลการค้นหาหลังจากวันที่/เวลาที่ระบุ ต้องระบุวันที่/เวลาในรูปแบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง RFC 822, RFC 850 และ ISO 8601 ระบบจะละเว้นคำสั่งนี้หากไม่มีการระบุวันที่/เวลาที่ถูกต้อง โดยค่าเริ่มต้น เนื้อหาจะไม่มีวันที่หมดอายุ หากไม่ระบุคำสั่งนี้ หน้านี้อาจแสดงในผลการค้นหาอย่างไม่จำกัด Googlebot จะลดอัตราการรวบรวมข้อมูลของ URL ลงเป็นอย่างมากหลังจากวันที่และเวลาที่ระบุ เช่น <meta name="robots" content="unavailable_after: 2020-09-21"> |
การใช้คำสั่งแบบรวมสำหรับการจัดทำดัชนีและการแสดงผล
คุณสร้างวิธีการที่เป็นคำสั่งหลายรายการได้โดยใช้คำสั่งของเมตาแท็ก Robots ร่วมกับเครื่องหมายคอมมา หรือใช้เมตาแท็กหลายรายการ ต่อไปนี้คือตัวอย่างเมตาแท็ก Robots ที่บอกโปรแกรมรวบรวมข้อมูลเว็บไม่ให้จัดทำดัชนีหน้าเว็บและไม่ให้รวบรวมข้อมูลของลิงก์ใดๆ ในหน้าเว็บเลย
รายการที่คั่นด้วยคอมมา
<meta name="robots" content="noindex, nofollow">
เมตาแท็กหลายรายการ
<meta name="robots" content="noindex"> <meta name="robots" content="nofollow">
ต่อไปนี้คือตัวอย่างที่จำกัดความยาวของตัวอย่างข้อความไว้ที่ 20 อักขระและอนุญาตให้แสดงตัวอย่างรูปภาพขนาดใหญ่
<meta name="robots" content="max-snippet:20, max-image-preview:large">
ในกรณีที่มีการระบุโปรแกรมรวบรวมข้อมูลหลายโปรแกรมพร้อมกับคำสั่งหลายรายการ เครื่องมือค้นหาจะใช้ผลรวมของคำสั่งเชิงลบ เช่น
<meta name="robots" content="nofollow"> <meta name="googlebot" content="noindex">
Googlebot จะเข้าใจว่าหน้าเว็บที่มีเมตาแท็กเหล่านี้มีคำสั่ง noindex, nofollow
เมื่อรวบรวมข้อมูล
การใช้แอตทริบิวต์ HTML data-nosnippet
คุณกำหนดส่วนที่เป็นข้อความของหน้า HTML เพื่อไม่ให้ใช้เป็นตัวอย่างได้ ซึ่งทำได้ในระดับเอลิเมนต์ HTML ที่มีแอตทริบิวต์ HTML "data-nosnippet
" ในเอลิเมนต์ span
, div
และ section
ระบบถือว่า data-nosnippet
เป็นแอตทริบิวต์บูลีน
โดยระบบจะไม่สนใจค่าที่ระบุ เช่นเดียวกับแอตทริบิวต์บูลีนอื่นๆ ทั้งหมด ส่วน HTML ต้องเป็น HTML ที่ถูกต้องและมีการปิดแท็กที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามความเหมาะสมเพื่อให้เครื่องอ่านได้
ตัวอย่าง
<p>This text can be shown in a snippet <span data-nosnippet>and this part would not be shown</span>.</p> <div data-nosnippet>not in snippet</div> <div data-nosnippet="true">also not in snippet</div> <div data-nosnippet="false">also not in snippet</div> <!-- all values are ignored --> <div data-nosnippet>some text</html> <!-- unclosed "div" will include all content afterwards --> <mytag data-nosnippet>some text</mytag> <!-- NOT VALID: not a span, div, or section -->
โดยปกติแล้ว Google จะแสดงผลหน้าเว็บเพื่อจัดทำดัชนี แต่ไม่รับประกันการแสดงผล
จึงอาจมีการดึง data-nosnippet
ทั้งก่อนและหลังการแสดงผล โปรดอย่าเพิ่มหรือลบแอตทริบิวต์ data-nosnippet
ของโหนดที่มีอยู่ผ่าน JavaScript เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนจากการแสดงผล
เมื่อเพิ่มเอลิเมนต์ของ DOM ผ่าน JavaScript ให้ใส่แอตทริบิวต์ data-nosnippet
ตามความจำเป็นเมื่อเริ่มเพิ่มเอลิเมนต์ใน DOM ของหน้าเว็บ หากมีการใช้เอลิเมนต์ที่กำหนดเอง ให้รวมหรือแสดงผลด้วยเอลิเมนต์ div
, span
หรือ section
หากคุณต้องการใช้ data-nosnippet
การใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้าง
เมตาแท็ก robots ควบคุมปริมาณเนื้อหาที่ Google ดึงมาจากหน้าเว็บโดยอัตโนมัติเพื่อแสดงเป็นผลการค้นหา แต่ผู้เผยแพร่เนื้อหาจำนวนมากยังใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้าง schema.org เพื่อให้ข้อมูลที่เจาะจงใช้ในการแสดงการค้นหาได้ด้วย ข้อจำกัดของเมตาแท็ก robots ไม่ส่งผลต่อการใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างนั้น โดยมีข้อยกเว้นของ article.description
และค่า description
ของข้อมูลที่มีโครงสร้างที่ระบุไว้สำหรับงานสร้างสรรค์อื่นๆ หากต้องการระบุความยาวสูงสุดของตัวอย่างที่อิงตามค่า description
เหล่านี้ ให้ใช้เมตาแท็ก robots max-snippet
ตัวอย่างเช่น ข้อมูลที่มีโครงสร้าง recipe
ในหน้าเว็บจะมีสิทธิ์รวมอยู่ในภาพสไลด์สูตรอาหาร แม้ว่าจะมีการจำกัดข้อความที่แสดงตัวอย่าง คุณจำกัดความยาวของตัวอย่างข้อความได้ด้วย max-snippet
แต่ระบบจะไม่ใช้เมตาแท็ก robots นั้นเมื่อมีการระบุข้อมูลโดยใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างสำหรับผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์
ในการจัดการการใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างสำหรับหน้าเว็บ ให้แก้ไขประเภทข้อมูลที่มีโครงสร้างและค่าโดยการเพิ่มหรือนำข้อมูลออกเพื่อให้เหลือเฉพาะข้อมูลที่ต้องการให้แสดง และโปรดทราบว่าข้อมูลที่มีโครงสร้างจะใช้กับผลการค้นหาได้ต่อไปเมื่อมีการประกาศภายในเอลิเมนต์ data-nosnippet
แนวทางการปรับใช้ X-Robots-Tag
คุณเพิ่ม X-Robots-Tag
ในการตอบสนอง HTTP ของเว็บไซต์ผ่านไฟล์การกำหนดค่าของซอฟต์แวร์สำหรับเว็บเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ได้ เช่น ในเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Apache คุณจะใช้ไฟล์ .htaccess และ httpd.conf ได้ ประโยชน์ของการใช้ X-Robots-Tag
ที่มีการตอบสนองของ HTTP คือคุณระบุคำสั่งในการรวบรวมข้อมูลที่มีผลทั่วทั้งเว็บไซต์ได้ การรองรับนิพจน์ทั่วไปช่วยให้มีความยืดหยุ่นในระดับสูง
เช่น หากต้องการเพิ่ม noindex, nofollow
X-Robots-Tag
ในการตอบสนองของ HTTP สำหรับไฟล์ .PDF ทั้งหมดทั่วทั้งเว็บไซต์ ให้เพิ่มข้อมูลโค้ดต่อไปนี้ในไฟล์ .htaccess หรือไฟล์ httpd.conf ที่รูทของเว็บไซต์ใน Apache หรือในไฟล์ .conf ของเว็บไซต์ใน NGINX
Apache
<Files ~ "\.pdf$"> Header set X-Robots-Tag "noindex, nofollow" </Files>
location ~* \.pdf$ { add_header X-Robots-Tag "noindex, nofollow"; }
NGINX
ในกรณีที่ใช้เมตาแท็ก robots ใน HTML ไม่ได้ คุณใช้ X-Robots-Tag
สำหรับไฟล์ที่ไม่ใช่ HTML เช่น ไฟล์ภาพได้ ต่อไปนี้คือตัวอย่างการเพิ่มคำสั่ง noindex
X-Robots-Tag
สำหรับไฟล์ภาพ (.png, .jpeg, .jpg, .gif) ทั่วทั้งเว็บไซต์
Apache
<Files ~ "\.(png|jpe?g|gif)$"> Header set X-Robots-Tag "noindex" </Files>
NGINX
location ~* \.(png|jpe?g|gif)$ { add_header X-Robots-Tag "noindex"; }
คุณยังตั้งค่าส่วนหัว X-Robots-Tag
สำหรับไฟล์แบบคงที่แต่ละไฟล์ได้ดังนี้
Apache
# the htaccess file must be placed in the directory of the matched file. <Files "unicorn.pdf"> Header set X-Robots-Tag "noindex, nofollow" </Files>
NGINX
location = /secrets/unicorn.pdf { add_header X-Robots-Tag "noindex, nofollow"; }
การใช้คำสั่ง robots.txt กับคำสั่งในการจัดทำดัชนีและการแสดงผล
ระบบจะพบเมตาแท็ก robots และส่วนหัว HTTP ของ X-Robots-Tag
เมื่อรวบรวมข้อมูล URL หากไม่มีการอนุญาตให้รวบรวมข้อมูลหน้าเว็บผ่านไฟล์ robots.txt ระบบจะไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับคำสั่งในการจัดทำดัชนีหรือการแสดงผล แล้วก็จะละเว้นคำสั่งดังกล่าว หากต้องการให้ระบบทำตามคำสั่งในการจัดทำดัชนีหรือการแสดงผล คุณจะต้องอนุญาตให้มีการรวบรวมข้อมูล URL ที่มีคำสั่งเหล่านั้น