To discuss and provide feedback on our products, join the official Ad Manager Discord channel in the Google Advertising and Measurement Community server.

หน้านี้ได้รับการแปลโดย Cloud Translation API

แบนเนอร์โฆษณา

เลือกแพลตฟอร์ม: Android iOS Unity Flutter

โฆษณาแบนเนอร์ คือโฆษณารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ยึดพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของเลย์เอาต์ของแอป แบนเนอร์ยึดตำแหน่งที่ปรับเปลี่ยนได้ คือโฆษณาที่มีสัดส่วนคงที่ซึ่งจะแสดงบนหน้าจอในขณะที่ผู้ใช้ โต้ตอบกับแอป โดยอาจตรึงอยู่ที่ด้านบนหรือด้านล่างของหน้าจอ

คู่มือนี้ครอบคลุมการโหลดโฆษณาแบนเนอร์แบบปรับขนาดได้ที่ยึดตำแหน่งไว้ลงในแอป Android

ข้อกำหนดเบื้องต้น

ทำตามคู่มือเริ่มต้นใช้งาน
ไม่บังคับ: หากต้องการดูตัวอย่างการติดตั้งใช้งานโฆษณาแบนเนอร์ ให้เลือกแอปตัวอย่างใดตัวอย่างหนึ่งต่อไปนี้
- ตัวอย่างโฆษณาแบนเนอร์แบบปรับขนาดได้ที่ยึดตำแหน่งไว้ใน Java, Kotlin หรือ Jetpack Compose
- การสาธิตฟีเจอร์ขั้นสูงของ Java หรือ Kotlin

ทดสอบด้วยโฆษณาทดสอบเสมอ

เมื่อสร้างและทดสอบแอป โปรดใช้โฆษณาทดสอบแทน โฆษณาจริงที่ใช้งานจริง หากไม่ดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้บัญชีถูกระงับ

วิธีที่ง่ายที่สุดในการโหลดโฆษณาทดสอบคือการใช้รหัสหน่วยโฆษณาทดสอบเฉพาะสำหรับ แบนเนอร์ Android

/21775744923/example/adaptive-banner

เราได้กำหนดค่าไว้เป็นพิเศษเพื่อแสดงโฆษณาทดสอบสำหรับทุกคำขอ และคุณสามารถ ใช้ในแอปของคุณเองขณะเขียนโค้ด ทดสอบ และแก้ไขข้อบกพร่อง เพียงตรวจสอบว่าคุณได้ แทนที่ด้วยรหัสหน่วยโฆษณาของคุณเองก่อนเผยแพร่แอป

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีทำงานของโฆษณาทดสอบใน Google Mobile Ads SDK ได้ที่ เปิดใช้โฆษณาทดสอบ

กำหนดมุมมองโฆษณา

เลย์เอาต์ XML

เพิ่มมุมมองลงในไฟล์ XML ของเลย์เอาต์เพื่อใช้เป็นคอนเทนเนอร์สำหรับโฆษณาแบนเนอร์ที่ยึดด้านล่างแบบปรับได้

<!-- Ad view container that fills the width of the screen and adjusts its
    height to the content of the ad. -->
<FrameLayout
        android:id="@+id/ad_view_container"
        android:layout_width="match_parent"
        android:layout_height="wrap_content"
        android:layout_centerInParent="true"
        android:layout_alignParentBottom="true" />

Jetpack Compose

รวมโมดูล JetpackComposeDemo/compose-util โมดูลนี้มีตัวช่วยในการเขียนออบเจ็กต์และชิ้นงาน AdView
สร้างคลาส BannerAd จากโมดูล compose-util โดยทำดังนี้


// Place the ad view at the bottom of the screen.
Column(modifier = modifier.fillMaxSize(), verticalArrangement = Arrangement.Bottom) {
  Box(modifier = modifier.fillMaxWidth()) { AdManagerBannerAd(adView, modifier) }
}AdManagerBannerScreen.kt

กำหนดขนาดโฆษณา

ตั้งค่า AdSize เป็นประเภทแบนเนอร์แบบปรับขนาดได้ที่ยึดไว้โดยมีความกว้างที่ระบุ ดังนี้

Java

// Request an anchored adaptive banner with a width of 360.
adView.setAdSize(AdSize.getCurrentOrientationAnchoredAdaptiveBannerAdSize(this, 360));MyActivity.java

Kotlin

// Request an anchored adaptive banner with a width of 360.
adView.setAdSize(AdSize.getCurrentOrientationAnchoredAdaptiveBannerAdSize(this, 360))MainActivity.kt

Jetpack Compose


// Set the adaptive banner ad size with a given width.
val adSize = AdSize.getCurrentOrientationAnchoredAdaptiveBannerAdSize(LocalContext.current, 360)
adView.setAdSize(adSize)AdManagerBannerScreen.kt

เพิ่ม `AdManagerAdView` ลงในเลย์เอาต์

สร้าง AdManagerAdView โดยใช้ขนาดโฆษณาเพื่อเพิ่มลงในเลย์เอาต์ของแอป

Java


// Create a new ad view.
adView = new AdManagerAdView(this);
adView.setAdUnitId(AD_UNIT);
// Request an anchored adaptive banner with a width of 360.
adView.setAdSize(AdSize.getCurrentOrientationAnchoredAdaptiveBannerAdSize(this, 360));

// Replace ad container with new ad view.
adContainerView.removeAllViews();
adContainerView.addView(adView);MyActivity.java

Kotlin


// Create a new ad view.
val adView = AdManagerAdView(this)
adView.adUnitId = AD_UNIT_ID
// Request an anchored adaptive banner with a width of 360.
adView.setAdSize(AdSize.getCurrentOrientationAnchoredAdaptiveBannerAdSize(this, 360))
this.adView = adView

// Replace ad container with new ad view.
binding.adViewContainer.removeAllViews()
binding.adViewContainer.addView(adView)MyActivity.kt

Jetpack Compose


val adView = remember { AdManagerAdView(context) }

// Setup and load the adview.
// Set the unique ID for this specific ad unit.
adView.adUnitId = ADMANANGER_ADAPTIVE_BANNER_AD_UNIT_ID

// Set the adaptive banner ad size with a given width.
val adSize = AdSize.getCurrentOrientationAnchoredAdaptiveBannerAdSize(LocalContext.current, 360)
adView.setAdSize(adSize)

// Place the ad view at the bottom of the screen.
Column(modifier = modifier.fillMaxSize(), verticalArrangement = Arrangement.Bottom) {
  Box(modifier = modifier.fillMaxWidth()) { AdManagerBannerAd(adView, modifier) }
}AdManagerBannerScreen.kt

โหลดโฆษณา

เมื่อAdManagerAdViewพร้อมแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการ โหลดโฆษณา โดยใช้เมธอด loadAd() ในคลาส AdManagerAdView โดยจะใช้พารามิเตอร์ AdManagerAdRequest ซึ่งมีข้อมูลรันไทม์ เช่น ข้อมูลการกำหนดเป้าหมาย เกี่ยวกับคำขอโฆษณาเดียว

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีโหลดโฆษณา

Java

AdManagerAdRequest adRequest = new AdManagerAdRequest.Builder().build();
adView.loadAd(adRequest);MyActivity.java

Kotlin

val adRequest = AdRequest.Builder().build()
adView.loadAd(adRequest)MainActivity.kt

หากสำเร็จ แอปของคุณก็พร้อมแสดงโฆษณาแบนเนอร์

รีเฟรชโฆษณา

หากกำหนดค่าหน่วยโฆษณาให้รีเฟรช คุณไม่จำเป็นต้องขอโฆษณาอื่น เมื่อโฆษณาโหลดไม่สำเร็จ Google Mobile Ads SDK จะใช้อัตราการรีเฟรชที่คุณระบุใน UI ของ Ad Manager หากยังไม่ได้เปิดใช้การรีเฟรช ให้ส่งคำขอใหม่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรีเฟรชหน่วยโฆษณา เช่น การตั้งค่าอัตราการรีเฟรช ได้ที่ อัตราการรีเฟรชของโฆษณาในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

เผยแพร่ชิ้นงานโฆษณา

เมื่อใช้โฆษณาแบนเนอร์เสร็จแล้ว คุณสามารถปล่อยทรัพยากรของโฆษณาแบนเนอร์ได้

หากต้องการเผยแพร่ทรัพยากรของโฆษณา ให้นำโฆษณาออกจากลําดับชั้นของมุมมองและ ทิ้งการอ้างอิงทั้งหมดของโฆษณา

Java

public void destroyBanner() {
  // Remove banner from view hierarchy.
  if (adView != null) {
    View parentView = (View) adView.getParent();
    if (parentView instanceof ViewGroup) {
      ((ViewGroup) parentView).removeView(adView);
    }

    // Destroy the banner ad resources.
    adView.destroy();
  }

  // Drop reference to the banner ad.
  adView = null;
}
BannerSnippets.java

Kotlin

fun destroyBanner() {
  // Remove banner from view hierarchy.
  val parentView = adView?.parent
  if (parentView is ViewGroup) {
    parentView.removeView(adView)
  }

  // Destroy the banner ad resources.
  adView?.destroy()

  // Drop reference to the banner ad.
  adView = null
}
BannerSnippets.kt

เหตุการณ์โฆษณา

คุณสามารถฟังเหตุการณ์ต่างๆ ในวงจรโฆษณาได้ ซึ่งรวมถึงการโหลด การแสดงผลและการคลิกโฆษณา รวมถึงเหตุการณ์การเปิดและปิดโฆษณา ขอแนะนำ ให้ตั้งค่าการเรียกกลับก่อนที่จะโหลดแบนเนอร์

Java

if (adView != null) {
  adView.setAdListener(
      new AdListener() {
        @Override
        public void onAdClicked() {
          // Code to be executed when the user clicks on an ad.
        }

        @Override
        public void onAdClosed() {
          // Code to be executed when the user is about to return
          // to the app after tapping on an ad.
        }

        @Override
        public void onAdFailedToLoad(@NonNull LoadAdError adError) {
          // Code to be executed when an ad request fails.
        }

        @Override
        public void onAdImpression() {
          // Code to be executed when an impression is recorded
          // for an ad.
        }

        @Override
        public void onAdLoaded() {
          // Code to be executed when an ad finishes loading.
        }

        @Override
        public void onAdOpened() {
          // Code to be executed when an ad opens an overlay that
          // covers the screen.
        }
      });
}BannerSnippets.java

Kotlin

adView?.adListener =
  object : AdListener() {
    override fun onAdClicked() {
      // Code to be executed when the user clicks on an ad.
    }

    override fun onAdClosed() {
      // Code to be executed when the user is about to return
      // to the app after tapping on an ad.
    }

    override fun onAdFailedToLoad(adError: LoadAdError) {
      // Code to be executed when an ad request fails.
    }

    override fun onAdImpression() {
      // Code to be executed when an impression is recorded
      // for an ad.
    }

    override fun onAdLoaded() {
      // Code to be executed when an ad finishes loading.
    }

    override fun onAdOpened() {
      // Code to be executed when an ad opens an overlay that
      // covers the screen.
    }
  }BannerSnippets.kt

เมธอดที่แทนที่ได้แต่ละรายการใน AdListener สอดคล้องกับเหตุการณ์ในวงจรของโฆษณา

วิธีการที่ลบล้างได้
`onAdClicked()`	ระบบจะเรียกใช้เมธอด `onAdClicked()` เมื่อบันทึกการคลิกโฆษณา
`onAdClosed()`	ระบบจะเรียกใช้เมธอด `onAdClosed()` เมื่อผู้ใช้กลับมาที่แอปหลังจากดู URL ปลายทางของโฆษณา แอปของคุณสามารถใช้เพื่อกลับมาทำงานต่อในกิจกรรมที่ถูกระงับหรือ ทำงานอื่นๆ ที่จำเป็นเพื่อให้แอปพร้อมสำหรับการโต้ตอบ
`onAdFailedToLoad()`	เมธอด `onAdFailedToLoad()` เป็นเมธอดเดียวที่มีพารามิเตอร์ พารามิเตอร์ข้อผิดพลาดของประเภท `LoadAdError` อธิบายข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เอกสารการแก้ไขข้อบกพร่องในการโหลดโฆษณา
`onAdImpression()`	ระบบจะเรียกใช้เมธอด `onAdImpression()` เมื่อบันทึกการแสดงผลของโฆษณา
`onAdLoaded()`	ระบบจะเรียกใช้เมธอด `onAdLoaded()` เมื่อโฆษณาโหลดเสร็จแล้ว หากต้องการเลื่อนเวลา การเพิ่ม `AdManagerAdView` ลงในกิจกรรมหรือ Fragment จนกว่าจะแน่ใจว่าระบบจะโหลดโฆษณา ได้ คุณสามารถทำได้ที่นี่
`onAdOpened()`	ระบบจะเรียกใช้เมธอด `onAdOpened()` เมื่อโฆษณาเปิดโฆษณาซ้อนทับที่ครอบคลุมหน้าจอ

การเร่งฮาร์ดแวร์สำหรับโฆษณาวิดีโอ

หากต้องการให้โฆษณาวิดีโอแสดงในมุมมองโฆษณาแบนเนอร์ได้สำเร็จ คุณต้องเปิดใช้การเร่งด้วยฮาร์ดแวร์

การเร่งด้วยฮาร์ดแวร์จะเปิดใช้โดยค่าเริ่มต้น แต่บางแอปอาจเลือกปิดใช้ หากแอปของคุณเป็นเช่นนี้ เราขอแนะนำให้เปิดใช้การเร่งด้วยฮาร์ดแวร์สำหรับคลาส Activity ที่ใช้โฆษณา

เปิดการเร่งฮาร์ดแวร์

หากแอปทำงานไม่ถูกต้องเมื่อเปิดการเร่งด้วยฮาร์ดแวร์ ทั่วโลก คุณสามารถควบคุมการเร่งด้วยฮาร์ดแวร์สำหรับกิจกรรมแต่ละอย่างได้เช่นกัน หากต้องการเปิดหรือปิดใช้การเร่งฮาร์ดแวร์ คุณสามารถใช้แอตทริบิวต์ android:hardwareAccelerated สำหรับองค์ประกอบ <application> และ <activity> ใน AndroidManifest.xml ตัวอย่างต่อไปนี้เปิดใช้การเร่งด้วยฮาร์ดแวร์ สำหรับทั้งแอป แต่ปิดใช้สำหรับกิจกรรมหนึ่งๆ

<application android:hardwareAccelerated="true">
    <!-- For activities that use ads, hardwareAcceleration should be true. -->
    <activity android:hardwareAccelerated="true" />
    <!-- For activities that don't use ads, hardwareAcceleration can be false. -->
    <activity android:hardwareAccelerated="false" />
</application>

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกในการควบคุมการเร่งฮาร์ดแวร์ได้ที่คำแนะนำ การเร่งฮาร์ดแวร์ โปรดทราบว่าคุณจะเปิดใช้มุมมองโฆษณาแต่ละรายการสำหรับการเร่งฮาร์ดแวร์ไม่ได้หากปิดใช้กิจกรรม ดังนั้นกิจกรรมเองต้องเปิดใช้การเร่งฮาร์ดแวร์

การนับการแสดงผลด้วยตนเอง

การนับการแสดงผลด้วยตนเองใช้งานได้กับแคมเปญแบบขายตรงและแคมเปญโฆษณาเฮาส์แอ็ดที่มีครีเอทีฟโฆษณาที่ดูแลการแสดงใน Ad Manager โดยตรงเท่านั้น ไม่ควรใช้กับโฆษณาทดแทนหรือโฆษณาของเครือข่ายบุคคลที่สาม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การนับ การแสดงผลและการคลิก

คุณสามารถส่งคำสั่ง ping การแสดงผลไปยัง Ad Manager ด้วยตนเองได้หากมีเงื่อนไขพิเศษ สำหรับเวลาที่ควรบันทึกการแสดงผล

Java

if (adManagerAdView != null) {
  adManagerAdView.setManualImpressionsEnabled(true);
}BannerSnippets.java

Kotlin

adManagerAdView?.setManualImpressionsEnabled(true)BannerSnippets.kt

เมื่อพิจารณาแล้วว่าโฆษณาแสดงบนหน้าจอเรียบร้อยแล้ว คุณจะบันทึกการแสดงผลด้วยตนเองได้โดยทำดังนี้

Java

if (adManagerAdView != null) {
  adManagerAdView.recordManualImpression();
}BannerSnippets.java

Kotlin

adManagerAdView?.recordManualImpression()BannerSnippets.kt

เหตุการณ์ของแอป

เหตุการณ์ในแอปช่วยให้คุณสร้างโฆษณาที่ส่งข้อความไปยังโค้ดของแอปได้ จากนั้นแอป จะดำเนินการตามข้อความเหล่านี้ได้

คุณสามารถฟังเหตุการณ์ของแอปที่เฉพาะเจาะจงของ Ad Manager ได้โดยใช้ AppEventListener เหตุการณ์เหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในวงจรโฆษณา แม้กระทั่งก่อนที่จะเรียกใช้ onAdLoaded()

ตั้งค่า AppEventListener ใน AdManagerAdView โดยทำดังนี้

Java

if (adManagerAdView != null) {
  adManagerAdView.setAppEventListener(this);
}BannerSnippets.java

Kotlin

adManagerAdView?.appEventListener = thisBannerSnippets.kt

ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงวิธีเปลี่ยนสีพื้นหลังของแอป โดยขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในแอปที่มีชื่อสี

Java

@Override
public void onAppEvent(@NonNull String name, @NonNull String info) {
  if (name.equals("color")) {
    switch (info) {
      case "green":
        // Set background color to green.
        break;
      case "blue":
        // Set background color to blue.
        break;
      default:
        // Set background color to black.
        break;
    }
  }
}BannerSnippets.java

Kotlin

override fun onAppEvent(name: String, info: String) {
  if (name == "color") {
    when (info) {
      "green" -> {
        // Set background color to green.
      }
      "blue" -> {
        // Set background color to blue.
      }
      else -> {
        // Set background color to black.
      }
    }
  }
}BannerSnippets.kt

และนี่คือครีเอทีฟโฆษณาที่เกี่ยวข้องซึ่งส่งข้อความเหตุการณ์ของแอปสีไปยัง Listener

<html>
<head>
  <script src="//www.gstatic.com/afma/api/v1/google_mobile_app_ads.js"></script>
  <script>
    document.addEventListener("DOMContentLoaded", function() {
      // Send a color=green event when ad loads.
      admob.events.dispatchAppEvent("color", "green");

      document.getElementById("ad").addEventListener("click", function() {
        // Send a color=blue event when ad is clicked.
        admob.events.dispatchAppEvent("color", "blue");
      });
    });
  </script>
  <style>
    #ad {
      width: 320px;
      height: 50px;
      top: 0px;
      left: 0px;
      font-size: 24pt;
      font-weight: bold;
      position: absolute;
      background: black;
      color: white;
      text-align: center;
    }
  </style>
</head>
<body>
  <div id="ad">Carpe diem!</div>
</body>
</html>

ดูตัวอย่างเหตุการณ์ของแอป Ad Manager เพื่อดูการใช้งานเหตุการณ์ของแอปใน แอปการสาธิต API

Java Kotlin JetpackCompose

ขั้นตอนถัดไป

แบนเนอร์แบบยุบได้

โฆษณาแบนเนอร์แบบยุบได้คือโฆษณาแบนเนอร์ที่แสดงเป็นโฆษณาซ้อนทับขนาดใหญ่กว่าในตอนแรก โดยมีปุ่มสำหรับยุบโฆษณาให้มีขนาดเล็กลง ลองใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โฆษณาแบนเนอร์แบบยุบได้

แบนเนอร์แบบปรับขนาดได้ที่แทรกในบรรทัด

แบนเนอร์แบบปรับขนาดได้ที่แทรกในบรรทัดคือแบนเนอร์ที่มีขนาดใหญ่และสูงกว่าเดิมเมื่อเทียบกับแบนเนอร์แบบปรับขนาดได้แบบโฆษณา Anchor แบนเนอร์ประเภทนี้มีความสูงที่ไม่ตายตัว และมีความสูงได้เท่าหน้าจออุปกรณ์ เราขอแนะนำให้ใช้แบนเนอร์แบบปรับขนาดได้ที่แทรกในบรรทัดแทนโฆษณาแบนเนอร์แบบปรับขนาดได้ที่ยึดตำแหน่งไว้สำหรับ แอปที่วางโฆษณาแบนเนอร์ในเนื้อหาที่เลื่อนได้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แบนเนอร์ แบบปรับได้ในบรรทัด

ข้อกำหนดเบื้องต้น

ทดสอบด้วยโฆษณาทดสอบเสมอ

กำหนดมุมมองโฆษณา

เลย์เอาต์ XML

Jetpack Compose

กำหนดขนาดโฆษณา

Java

Kotlin

Jetpack Compose

เพิ่ม AdManagerAdView ลงในเลย์เอาต์

Java

Kotlin

Jetpack Compose

โหลดโฆษณา

Java

Kotlin

รีเฟรชโฆษณา

เผยแพร่ชิ้นงานโฆษณา

Java

Kotlin

เหตุการณ์โฆษณา

Java

Kotlin

การเร่งฮาร์ดแวร์สำหรับโฆษณาวิดีโอ

เปิดการเร่งฮาร์ดแวร์

การนับการแสดงผลด้วยตนเอง

Java

Kotlin

Java

Kotlin

เหตุการณ์ของแอป

Java

Kotlin

Java

Kotlin

ขั้นตอนถัดไป

แบนเนอร์แบบยุบได้

แบนเนอร์แบบปรับขนาดได้ที่แทรกในบรรทัด

สำรวจหัวข้ออื่นๆ

เพิ่ม `AdManagerAdView` ลงในเลย์เอาต์