หยุดชั่วคราวหรือปิดใช้เว็บไซต์ชั่วคราว

หากคุณส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อไม่ได้หรือสินค้าหมด ให้ลองพิจารณาปิดธุรกิจออนไลน์ชั่วคราว หากสถานการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว หมายความว่าคุณคาดว่าจะขายผลิตภัณฑ์ได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือน เราขอแนะนำให้คุณดำเนินการเพื่อรักษาสถานะเว็บไซต์ใน Search ไว้ให้มากที่สุด คู่มือนี้จะอธิบายวิธีหยุดธุรกิจออนไลน์ชั่วคราวอย่างปลอดภัย

จำกัดฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์ (แนะนำ)

หากเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวและคุณวางแผนที่จะเปิดธุรกิจออนไลน์อีกครั้ง เราขอแนะนำให้เผยแพร่เว็บไซต์ทางออนไลน์ต่อไป แต่จำกัดฟังก์ชันการทำงาน เนื่องจากจะช่วยลดผลกระทบทางลบต่อการแสดงข้อมูลของเว็บไซต์ใน Search ผู้ใช้จะยังเห็นผลิตภัณฑ์ อ่านรีวิว หรือเพิ่มรายการสิ่งที่อยากได้เพื่อทำการซื้อภายหลังได้อยู่ เราขอแนะนำให้ทำดังนี้

  • ปิดใช้ฟังก์ชันรถเข็น: การปิดใช้ฟังก์ชันรถเข็นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและจะไม่ทำให้ระดับการเข้าถึงของเว็บไซต์ใน Search เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
  • แสดงแบนเนอร์หรือป๊อปอัป: div ของแบนเนอร์หรือป๊อปอัปในหน้าเว็บทุกหน้า รวมทั้งหน้า Landing Page ทำให้ผู้ใช้ทราบสถานะได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน กล่าวถึงความล่าช้า เวลาในการจัดส่ง ตัวเลือกในการรับหรือจัดส่งสินค้าทั้งที่ทราบอยู่แล้วและผิดปกติ เพื่อให้ผู้ใช้ดำเนินการต่อโดยมีความคาดหวังที่ถูกต้อง หากไม่ต้องการให้เนื้อหาในแบนเนอร์หรือป๊อปอัปแสดงในตัวอย่างในผลการค้นหา ให้ใช้แอตทริบิวต์ HTML data-nosnippet โปรดทำตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับป๊อปอัปและแบนเนอร์
  • อัปเดตข้อมูลที่มีโครงสร้าง: หากเว็บไซต์ใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้าง (เช่น Product, Book, Event) ให้ตรวจสอบว่าได้ปรับแก้อย่างเหมาะสมแล้ว (แสดงความพร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ณ ขณะปัจจุบัน หรือเปลี่ยนสถานะกิจกรรมเป็นยกเลิก) หากธุรกิจมีหน้าร้านจริง ให้อัปเดตข้อมูลที่มีโครงสร้างสำหรับธุรกิจในพื้นที่เพื่อแสดงเวลาทำการปัจจุบัน
  • ตรวจสอบฟีด Merchant Center: หากคุณใช้ Merchant Center ให้ทำตามแนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับแอตทริบิวต์ความพร้อมจำหน่ายสินค้า
  • แจ้งให้ Google ทราบเกี่ยวกับการอัปเดต: ใช้ Search Console เพื่อขอให้ Google ทำการ Crawl หน้าเว็บเพียงบางหน้า (เช่น หน้าแรก) อีกครั้ง หรือใช้แผนผังเว็บไซต์หากมีหน้าเว็บจำนวนมาก (เช่น หน้าผลิตภัณฑ์ทุกหน้า)

ไม่แนะนำให้ปิดใช้ทั้งเว็บไซต์

คุณเลือกที่จะปิดใช้ทั้งเว็บไซต์ก็ได้ แต่นี่เป็นวิธีสุดโต่งที่ควรทำในช่วงเวลาสั้นๆ (สูงสุด 2-3 วัน) เนื่องจากจะส่งผลกระทบสำคัญต่อเว็บไซต์ดังกล่าวใน Search แม้ว่าจะทำอย่างถูกต้องก็ตาม

โปรดคำนึงถึงผลข้างเคียงต่อไปนี้จากการปิดใช้ทั้งเว็บไซต์

  • ลูกค้าจะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจของคุณ หากไม่เห็นธุรกิจคุณออนไลน์เลย
  • ลูกค้าไม่พบหรือหาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ เช่น รีวิว ข้อกำหนด คู่มือซ่อม หรือคู่มือการใช้งาน จากแหล่งที่มาโดยตรงไม่ได้ ข้อมูลจากบุคคลที่สามอาจไม่ถูกต้องหรือไม่ครอบคลุมเท่ากับข้อมูลที่คุณให้ ซึ่งมักเป็นอีกปัจจัยที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อในอนาคต
  • ข้อมูลในการ์ดข้อมูลอาจหายไป เช่น หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อและโลโก้ของเว็บไซต์
  • Search Console จะทำการยืนยันไม่สำเร็จและคุณจะเสียสิทธิ์ทั้งหมดในการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจใน Search รายงานสรุปใน Search Console จะไม่มีข้อมูลเมื่อมีการนำหน้าเว็บออกจากดัชนี
  • หากเว็บไซต์ต้องได้รับการจัดทำดัชนีอีกครั้งก่อน ก็จะกลับมาได้อันดับเดิมยากขึ้นมากหลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน นอกจากนี้ เราบอกไม่ได้ว่าขั้นตอนนี้จะใช้เวลานานเท่าใด และเว็บไซต์จะปรากฏใน Search ในลักษณะเดิมหลังจากนี้หรือไม่

หากคุณตัดสินใจว่าจะปิดใช้ทั้งเว็บไซต์ (ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่แนะนำ) โปรดพิจารณาตัวเลือกต่อไปนี้

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการปิดใช้เว็บไซต์

แม้ว่าเราไม่แนะนำให้ปิดใช้เว็บไซต์ แต่หากคุณตัดสินใจว่าจะปิดใช้ โปรดดูแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดต่อไปนี้

  • อนุญาตให้มีการรวบรวมข้อมูลผ่านไฟล์ robots.txt ต่อไป อย่าแสดงรหัสสถานะการตอบกลับ 503 สำหรับไฟล์ robots.txt เนื่องจากจะบล็อกรวบรวมข้อมูลทั้งหมด
  • ยืนยันรหัสสถานะการตอบกลับ 503 ในเครื่องโดยใช้ curl หรือเครื่องมือที่คล้ายกัน ตัวอย่าง:
    curl -I -X GET "https://www.example.com/"
    HTTP/1.1 503 Service Unavailable
    Mime-Version: 1.0
    Content-Type: text/html
    (...)
  • หากต้องการลดภาระงานของหน้าแสดงข้อผิดพลาด 503 ในฝั่งเซิร์ฟเวอร์และฝั่งไคลเอ็นต์ ให้ทำตามแนวทางปฏิบัติแนะนำต่อไปนี้
    • ใช้ส่วนหัว HTTP retry-after ที่มีวันที่หรือระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุด
    • ใช้ HTML แบบคงที่
    • ลดทรัพยากรนอกหน้าเว็บโดยใช้สไตล์ชีต CSS ในหน้าและรูปภาพที่เข้ารหัสแบบ Base64
  • ให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับขั้นตอนในอนาคตภายในเนื้อหาของหน้าแสดงข้อผิดพลาด อาจระบุข้อมูลต่อไปนี้ในคำแนะนำ
    • ลิงก์ไปยังข้อมูลเพิ่มเติม
    • วันที่ที่คาดว่าเว็บไซต์จะออนไลน์อีกครั้ง หรือเวลาที่จะมีการอัปเดตข้อมูล
    • วิธีติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
  • อนุญาตให้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดในไฟล์ robots.txt การแสดงไฟล์ robots.txt ที่ถูกต้องซึ่งไม่อนุญาตให้มีการรวบรวมข้อมูลเลยอาจนำเนื้อหาของเว็บไซต์รวมถึง URL ออกจาก Google Search
  • อย่าบล็อกเว็บไซต์ด้วยการแสดงรหัสสถานะ HTTP 403, 404, 410 หรือใช้แท็ก meta noindex ของ robots หรือส่วนหัว HTTP ของ x-robots-tag เนื่องจากจะเป็นการนำ URL ของเว็บไซต์ออกจาก Google Search
  • อย่าใช้เครื่องมือนำเว็บไซต์ออกชั่วคราวใน Search Console เพื่อปิดเว็บไซต์ เนื่องจากจะทำให้ผู้ใช้หาเว็บไซต์ไม่พบและไม่รู้สถานะของเว็บไซต์ นอกจากนี้ ผู้ที่มีโอกาสเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือแอฟฟิลิเอตของผลิตภัณฑ์ของธุรกิจอาจจะยังแสดงใน Search อยู่ต่อไป
  • อย่าบล็อกไฟล์ robots.txt ด้วยรหัสสถานะการตอบกลับ HTTP 503

คำถามที่พบบ่อย

จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันปิดเว็บไซต์ไปสัก 2-3 สัปดาห์

การปิดเว็บไซต์ไปเลยแม้เพียงไม่กี่สัปดาห์อาจส่งผลเสียต่อการจัดทำดัชนีของ Google ในเว็บไซต์ของคุณ เราขอแนะนำให้จำกัดฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์แทน โปรดทราบว่าผู้ใช้อาจต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ และบริษัทของคุณ แม้ว่าจะไม่ได้ขายสินค้าในขณะนี้

จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันต้องการยกเว้นผลิตภัณฑ์ที่ไม่จำเป็นทั้งหมด

ทำได้ ไม่เป็นไร ตรวจสอบว่าผู้ใช้จะซื้อ "ผลิตภัณฑ์ที่ไม่จำเป็น" ไม่ได้โดยจำกัดฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์

ฉันขอให้ Google รวบรวมข้อมูลน้อยลงในขณะที่ปิดเว็บไซต์ชั่วคราวได้ไหม

ได้ คุณลดอัตราการรวบรวมข้อมูลของ Googlebot ได้ แต่ในกรณีส่วนใหญ่แล้วเราไม่แนะนำ เนื่องจากวิธีนี้อาจส่งผลต่อความใหม่ของผลการค้นหาของคุณใน Search เช่น Search อาจใช้เวลานานขึ้นเพื่อแสดงว่าผลิตภัณฑ์ทุกรายการไม่พร้อมจำหน่ายในขณะนี้ ในทางกลับกัน คุณควรใช้วิธีนี้หากการรวบรวมข้อมูลของ Googlebot ทำให้เกิดปัญหาสำคัญด้านทรัพยากรในเซิร์ฟเวอร์ เราขอแนะนำให้คุณตั้งการแจ้งเตือนตัวเองให้รีเซ็ตอัตราการรวบรวมข้อมูลเมื่อพร้อมที่จะกลับไปทำธุรกิจอีกครั้ง

ฉันจะทำให้หน้าเว็บได้รับการจัดทำดัชนีหรืออัปเดตอย่างรวดเร็วได้อย่างไร

ใช้ Search Console เพื่อขอให้ Google ทำการ Crawl หน้าเว็บเพียงบางหน้า (เช่น หน้าแรก) อีกครั้ง หรือใช้แผนผังเว็บไซต์หากมีหน้าเว็บจำนวนมาก (เช่น หน้าผลิตภัณฑ์ทุกหน้า)

จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันบล็อกบางภูมิภาคไม่ให้เข้าถึงเว็บไซต์

โดยทั่วไป Google รวบรวมข้อมูลจากสหรัฐอเมริกา หากคุณบล็อกสหรัฐอเมริกา Google Search จะเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณไม่ได้เลย เราไม่แนะนำให้บล็อกไม่ให้ทั้งภูมิภาคเข้าถึงเว็บไซต์ชั่วคราว แต่ให้จำกัดฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์สำหรับภูมิภาคนั้นแทน

ฉันควรใช้เครื่องมือนำออกเพื่อนำสินค้าที่หมดออกไหม

ไม่ควร การใช้วิธีนี้จะทำให้ลูกค้าไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใน Search ซึ่งมาจากแหล่งที่มาโดยตรง และอาจมีข้อมูลจากบุคคลที่สามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นซึ่งไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ ทางที่ดีคือแสดงหน้าดังกล่าวไว้เช่นเดิมแต่ทำเครื่องหมายว่า "สินค้าหมด" วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าจะซื้อสินค้าไม่ได้ก็ตาม หากคุณนำผลิตภัณฑ์ออกจาก Search ผู้ใช้จะไม่ทราบเหตุผลที่ผลิตภัณฑ์นั้นหายไป