โดเมนและไดเรกทอรี

เรื่องแรกๆ ที่คุณควรรู้เมื่อใช้งานและกำหนดค่า Analytics ก็คือ โดเมนของเว็บพร็อพเพอร์ตี้ที่คุณกำลังติดตามได้รับการระบุในฐานะ "ไซต์" อย่างไร ทั้งนี้เพื่อจุดประสงค์ในการดูรายงานของคุณ ตามค่าเริ่มต้น การตั้งค่าโค้ดติดตามได้ออกแบบมาให้ง่ายต่อการติดตามการเข้าชมโดเมนหรือโดเมนย่อยเดียว (เช่น URL เว็บไซต์เดียว) ซึ่งไม่ได้แชร์ข้อมูลผู้ใช้ร่วมกับโดเมนหรือโดเมนย่อยอื่น

ตัวอย่างเช่น ถ้า URL ร้านขายสัตว์เลี้ยงของคุณคือ dogs.example.com และคุณติดตั้งโค้ดติดตามพร้อมรหัสพื้นที่เว็บบนหน้าเว็บเหล่านั้น ระบบจะตั้งค่าการติดตามให้ติดตามข้อมูลผู้ใช้เฉพาะสำหรับ URL รายการนี้รายการเดียวโดยอัตโนมัติ ในทำนองเดียวกัน ถ้าคุณเป็นเจ้าของโดเมนหลัก เช่น www.example.com และคุณติดตั้งการติดตามสำหรับทุกหน้าเว็บบนไซต์นี้ การเข้าชมจากผู้ใช้และการเข้าชมจากการอ้างอิงจะได้รับการบันทึกแยกกันสำหรับ www.example.com

บทความนี้จะแสดงภาพรวมเกี่ยวกับโดเมนและไดเรกทอรีใน Analytics และอธิบายหัวข้อต่อไปนี้

ในบทความนี้ประกอบด้วย

คุกกี้ Analytics ระบุไซต์โดยใช้ document.domain



Analytics กำหนดและอ่านค่าคุกกี้สำหรับโดเมนที่ไม่ซ้ำแต่ละโดเมนที่กำลังติดตามอยู่ โดยการอ่านค่าจากพร็อพเพอร์ตี้ document.domain สำหรับโฮสต์ของหน้าเว็บ ด้วยเหตุนี้ Analytics จึงมองว่าโดเมนย่อยของข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้อย่าง dogtoys.example.com เป็นโดเมนที่ต่างจากโดเมนหลักอย่าง www.example.com คุณสามารถระบุโดเมนของเว็บไซต์ได้โดยการใช้เครื่องมือดีบั๊ก JavaScript เช่น Firebug และเข้าไปดูในพร็อพเพอร์ตี้ document.domain สำหรับหน้าเว็บที่สงสัย ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการทดสอบพร็อพเพอร์ตี้ document.domain บนเว็บไซต์ dogtoys คุณจะเห็น dogtoys.example.com เป็นโดเมน

โดเมนแยกกันหมายถึงข้อมูลผู้ใช้และการเข้าชมแยกกัน

สำหรับโดเมนที่แยกกันแต่ละโดเมน คุกกี้ Analytics จะใช้ระบุข้อมูล 2 อย่าง ได้แก่

  • ข้อมูลผู้ใช้ (จำนวนเซสชัน)
  • แหล่งที่มาของการเข้าชม (การอ้างอิง การค้นหา แคมเปญโฆษณา)

หากคุณมีคุกกี้แยกชุดกันสำหรับโดเมนและโดเมนย่อย ระบบจะนับผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำของแต่ละโดเมนเหล่านั้นแยกกัน และการลิงก์ใดๆ ระหว่าง 2 ไซต์จะถูกนับเป็นการเข้าชมจากการอ้างอิง และไซต์ทั้งสองจะไม่แชร์ข้อมูลการค้นหาหรือแคมเปญร่วมกัน ซึ่งจะเป็นเช่นนี้แม้แต่ในกรณีที่แต่ละไซต์ใช้รหัสเว็บพร็อพเพอร์ตี้เดียวกันในโค้ดติดตาม


 

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณมีร้านค้าออนไลน์บน dogtoys.example.com แต่มีหน้ารถเข็นช็อปปิ้งสำหรับร้านอยู่บน www.example.com ทั้งสองไซต์มีการตั้งค่าให้ใช้รหัสเว็บพร็อพเพอร์ตี้เดียวกันในโค้ดติดตามสำหรับหน้าเว็บ แต่ไม่มีการปรับแต่งค่าที่กำหนดเอง ในสถานการณ์นี้ เซสชันที่เกิดขึ้นผ่านการลิงก์จาก dogtoys.example.com ไปยัง www.example.com จะถูกนับเป็นการอ้างอิง นอกจากนี้ สมมติว่าลูกค้าบางรายของคุณเข้าถึง dogtoys.example.com จากลิงก์ Google Ads และเข้าชมไซต์ซ้ำๆ หลายครั้ง ก่อนที่สุดท้ายจะทำการซื้อจนสำเร็จบน www.example.com การเข้าชมครั้งแรกที่ไปยังหน้ารถเข็นช็อปปิ้งจะถูกนับเป็นเซสชันผู้ใช้เพิ่มเติม (และเซสชันใหม่) เพราะข้อมูลผู้ใช้สำหรับ www.example.com ถูกแยกจาก dogtoys.example.com ด้วยคุกกี้

แต่หากคุณต้องการเชื่อมโยงผู้ใช้กับการเข้าชมจากการอ้างอิงระหว่าง 2 โดเมนนั้นแทน ก็สามารถทำได้โดยการปรับแต่งโค้ดติดตาม

โดเมนแยกกันไม่ได้หมายถึงเนื้อหาแยกกัน

เมื่อเซิร์ฟเวอร์ Analytics ได้รับคำขอ GIF สำหรับหน้าเว็บ ระบบจะจัดเก็บ URI และชื่อหน้าเว็บไว้ในคำขอ และส่งไปยังข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ที่มีรหัสเว็บพร็อพเพอร์ตี้ตรงกัน นั่นหมายความว่าเนื้อหาสำหรับโดเมนนั้นได้รับการระบุง่ายๆ โดยใช้รหัสเว็บพร็อพเพอร์ตี้ตามจริงของตัวโค้ดติดตามเอง หากเป็นเช่นนี้ คุณก็แค่คัดลอกโค้ดติดตาม (ที่มีรหัสเว็บพร็อพเพอร์ตี้เหมือนกัน) ลงในโดเมนต่างๆ และดูข้อมูลเนื้อหาของโดเมนทั้งหมดในข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการรายงานอันเดียวกัน

และนี่ยังอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณลืมทำการปรับแต่งเพิ่มเติมที่จำเป็นในการรวมผู้ใช้และการติดตามการเข้าชมระหว่างโดเมนต่างๆ เข้าด้วยกัน เพราะข้อมูลเนื้อหาสำหรับแต่ละโดเมนจะปรากฏขึ้นทันที

การที่คุณพบรายงานซึ่งไม่ได้มีเนื้อหาอยู่บนโดเมนของคุณ อาจเป็นเพราะมีบางคนป้อนโค้ดผิดบนไซต์ของตัวเอง หรือมีการยืม/แสดงโค้ดบางส่วนของเว็บไซต์คุณบนไซต์ของพวกเขา เพื่อให้แน่ใจว่าระบบจะติดตามเฉพาะเนื้อหาสำหรับโดเมนของคุณเท่านั้น คุณสามารถรวมตัวกรองบนข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ของคุณ ตั้งค่าช่องตัวกรองเป็นชื่อโฮสต์ และตั้งค่ารูปแบบเป็นโดเมนของคุณ โดยสามารถตั้งค่าการพิจารณาตัวพิมพ์เล็กและใหญ่เป็นไม่ เรียนรู้เกี่ยวกับตัวกรองที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

ไดเรกทอรีย่อยของโดเมนแชร์คุกกี้ร่วมกับโดเมน

ในการตั้งค่าการติดตามมาตรฐานสำหรับเว็บไซต์ ระบบจะเชื่อมโยงข้อมูลผู้ใช้ การเข้าชม และเนื้อหากับโดเมนเดียว ซึ่งรวมถึงการเข้าชมไดเรกทอรีย่อยด้วย อย่างไรก็ตาม มักจะเกิดกรณีที่คุณต้องการติดตาม (หรือมีสิทธิ์เข้าถึง) เฉพาะไดเรกทอรีย่อยเพียงอันเดียวของโดเมนเท่านั้น โปรดดูตัวอย่างที่พบบ่อย 2 ตัวอย่างต่อไปนี้

  • คุณใช้บริการรถเข็นช็อปปิ้งสำหรับร้านค้าออนไลน์ของคุณ ซึ่งโฮสต์อยู่บนไดเรกทอรีย่อยของโดเมนบริการนั้น เช่น www.example-shopping-cart.com/yourCart ในกรณีนี้ คุณอาจมีสิทธิ์เข้าถึงเฉพาะหน้าเว็บที่อยู่บนไดเรกทอรีย่อยเท่านั้น
  • เว็บไซต์บริษัทของคุณมีขนาดใหญ่ แต่โครงการของคุณจำกัดอยู่แค่ไดเรกทอรีย่อยของเว็บไซต์ขนาดใหญ่ดังกล่าว โดยคุณต้องการติดตามไดเรกทอรีย่อยแยกจากโดเมนใหญ่

หากไม่มีการปรับแต่งโค้ดติดตาม ระบบจะตั้งค่าคุกกี้ของ Analytics เป็นโดเมนที่โฮสต์ และตั้งค่าเส้นทางคุกกี้ไว้ที่ระดับราก (/) ของโดเมน เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้อมูลผู้ใช้ การเข้าชม และแคมเปญสำหรับไดเรกทอรีย่อยนั้นจะถูกแชร์ร่วมกับข้อมูลผู้ใช้ การเข้าชม และแคมเปญของทั้งเว็บไซต์

หากต้องการจำกัดการติดตามให้พิจารณาเฉพาะไดเรกทอรีย่อยของเว็บไซต์ คุณจะต้องกำหนดไดเรกทอรีย่อยนั้นเป็นเอนทิตีแยกจากโดเมนด้วยคุกกี้ เนื่องจากคุกกี้เป็นการระบุที่ไม่ซ้ำโดยใช้ชุดค่าผสมของโดเมนและเส้นทาง คุณจึงสามารถตั้งค่าเส้นทางของคุกกี้ไปยังไดเรกทอรีย่อยได้ เพื่อแยกการติดตามให้พิจารณาเฉพาะส่วนของเว็บไซต์ที่คุณต้องการเท่านั้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในการทำเช่นนี้ โปรดดูโดเมนและคุกกี้ (analytics.js)

 

 

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
เลือกเส้นทางการเรียนรู้ของคุณเอง

โปรดไปที่ google.com/analytics/learn ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลใหม่ที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจาก Google Analytics 4 เว็บไซต์ใหม่นี้มีทั้งวิดีโอ บทความ และขั้นตอนพร้อมคำแนะนำ รวมถึงลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ Google Analytics เช่น Discord, บล็อก, ช่อง YouTube ตลอดจนที่เก็บ GitHub

เริ่มเรียนรู้วันนี้เลย

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
10391400147850610655
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
69256
false
false