อัปเกรด Digital Goods API เป็น Google Play Billing Library 7

ในแต่ละปี Google Play Billing Library จะได้รับการอัปเกรดเป็นเวอร์ชันที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อนักพัฒนาแอปที่แสดงแอปพลิเคชันของตนใน Google Play Store

หากคุณเป็นนักพัฒนาแอปที่ใช้การเรียกเก็บเงินของ Play ใน TWA ผ่าน Digital Goods API หรือเคยใช้ Bubblewrap เพื่อใส่ PWA ลงใน Play Store และใช้การเรียกเก็บเงินของ Play กับ PWA การเปลี่ยนแปลงต่อไปนี้จะส่งผลต่อคุณและคุณต้องดำเนินการ

ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป คุณจะต้องใช้ Google Play Billing Library เวอร์ชัน 7 เพื่ออัปเดตแอปพลิเคชันที่มีอยู่หรือแสดงแอปพลิเคชันใหม่ใน Google Play Store

เราได้อัปเดต Digital Goods API และ Android Browser Helper เป็น Google Play Billing Library 7 เพื่อช่วยคุณอัปเดตแอป

อัปเดตทรัพยากร Dependency ของ ABH

หากคุณใช้ Bubblewrap โปรดตรวจสอบว่าคุณใช้เวอร์ชันล่าสุด (v.1.23.0) จากนั้นอัปเดตและสร้างแอปใหม่โดยทำดังนี้

  1. เรียกใช้ npm update -g bubblewrap เพื่อติดตั้ง Bubblewrap เวอร์ชันล่าสุด
  2. เรียกใช้ bubblewrap update เพื่ออัปเดตโปรเจ็กต์และรับ ABH เวอร์ชันล่าสุด
  3. เรียกใช้ bubblewrap build เพื่อสร้างโปรเจ็กต์ใหม่
 cd <your_twa_dir> bubblewrap update bubblewrap build 

หรือคุณจะดำเนินการนี้ด้วยตนเองโดยแก้ไขทรัพยากร Dependency ให้รวม 'com.google.androidbrowserhelper:billing:1.1.0' แล้วสร้างแอปใหม่ก็ได้ หากใช้ Gradle คุณจะต้องดำเนินการนี้ใน build.gradle

 dependencies { ... implementation 'com.google.androidbrowserhelper:billing:1.1.0' } 

เมื่อสร้างแอปใหม่แล้ว ให้อัปโหลดเวอร์ชันที่อัปเดตแล้วไปยัง Play

อัปเดตรหัสแพ็กเกจการสมัครใช้บริการ

หากแอปเสนอแพ็กเกจการสมัครใช้บริการ ระบบได้นำ ProrationMode ออกและแทนที่ด้วย ReplacementMode คุณต้องทำการเปลี่ยนแปลงนี้กับ PWA ดูข้อมูลเพิ่มเติม

หากทำการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2025 ไม่ได้ คุณสามารถขอขยายเวลาได้จนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2025 ผ่านแบบฟอร์มขยายเวลาที่มีอยู่ในหน้ารายละเอียดของคำเตือนหรือปัญหาในหน้าสถานะนโยบายใน Play Console ดูข้อมูลเกี่ยวกับการเลิกใช้งานเวอร์ชัน Play Billing Library