ภาพรวม

เลือกแพลตฟอร์ม: Android iOS JavaScript บริการเว็บ
Places API เป็นบริการที่ยอมรับคำขอ HTTP สำหรับข้อมูลตำแหน่งโดยใช้วิธีต่างๆ มากมาย โดยจะส่งคืนข้อมูลตำแหน่งที่จัดรูปแบบ และภาพเกี่ยวกับสถานประกอบการ สถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ หรือจุดสนใจหลักๆ

เหตุผลที่ควรใช้ Places API

สร้างฟีเจอร์ที่รับรู้ถึงตำแหน่งเพื่อให้ผู้ใช้ทราบถึงข้อมูลตำแหน่งโดยละเอียดได้ง่ายๆ ข้อมูลที่มีให้บริการผ่าน Places API สร้างขึ้นจากโมเดลสถานที่ที่แม่นยำ เป็นปัจจุบัน และครอบคลุมมากที่สุดในโลกของเรา ตัวอย่างกรณีการใช้งานสำหรับแอปพลิเคชันมีดังนี้

  • แสดงคอนโดให้เช่าภายในเขตเมืองใหญ่ โดยมีผลลัพธ์ที่กำหนดเป้าหมายไปยังเมืองโดยเฉพาะ
  • ใส่รายละเอียดสถานที่ในการอัปเดตสถานะการมารับที่ร้านหรือจัดส่ง
  • แสดงรายการสวนสาธารณะในพื้นที่พร้อมกับรูปภาพและรีวิวที่ผู้ใช้ส่งมา
  • ให้ข้อมูลติดต่อ รีวิว และระดับราคาของที่พักแก่ผู้ที่วางแผนการเดินทาง

สิ่งที่คุณทำได้ด้วย Places API

คุณสามารถใช้ Places API เพื่อเพิ่มคุณลักษณะต่อไปนี้ในแอปพลิเคชันของคุณ

  • แสดงผลการค้นหาสถานที่จากคําค้นหาประเภทต่างๆ ของผู้ใช้ เช่น การป้อนข้อความ สถานที่ใกล้เคียง และคําค้นหาของผู้ใช้ที่กำกวมหรือจัดหมวดหมู่
  • เปิดใช้ฟีเจอร์การเติมข้อความอัตโนมัติสำหรับการค้นหาประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อความที่เจาะจงหรือคำค้นหาตามหมวดหมู่
  • ปรับแต่งประเภทรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ที่แสดง เช่น เวลาทำการ ข้อมูลสรุป รีวิวของผู้ใช้ และรูปภาพ
  • เพิ่มรูปภาพคุณภาพสูงลงในตำแหน่งที่แอปพลิเคชันของคุณให้บริการ

Google Maps Platform API จำนวนมากรองรับรหัสสถานที่ ซึ่งรหัสสถานที่จะระบุสถานที่ในฐานข้อมูลของ Google Places และใน Google Maps ได้อย่างไม่ซ้ำกัน การรับรหัสสถานที่มีหลายวิธี ซึ่งรวมถึงจาก Places API หรือจาก Geocoding API, Routes API และ Address Validation API

เมื่อคุณมีรหัสสถานที่แล้ว คุณสามารถใช้ Places API เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานประกอบการหรือจุดสนใจหนึ่งๆ เช่น ที่อยู่ที่ครบถ้วน หมายเลขโทรศัพท์ การให้คะแนนของผู้ใช้ และรีวิว

เลือกเวอร์ชัน Places API ของคุณ

Places API รองรับ API 2 เวอร์ชัน ได้แก่ Places API คือ API ที่มีอยู่ และ Places API (ใหม่) เป็น API รุ่นใหม่

เมื่อเปิดตัว Places API (ใหม่) งานแรกของคุณคือการตัดสินใจว่าจะใช้ API ชุดใด กรณีนี้จะเกิดขึ้นหากคุณเป็นลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเดิมที่ใช้ API อยู่แล้ว ใช้คู่มือนี้เพื่อดูความแตกต่างที่สําคัญระหว่าง API ทั้งสอง

วิธีการทำงานของ Places API

Places API (ใหม่)

Places API (ใหม่) จะยอมรับคำขอเป็น URL มาตรฐานที่มีปลายทางบริการที่เฉพาะเจาะจง เช่น /places หรือ places:searchText และแสดงผลการตอบกลับ JSON Places API (ใหม่) รองรับการให้สิทธิ์ด้วยคีย์ API และโทเค็น OAuth ตัวอย่างต่อไปนี้สร้างคำขอรายละเอียดสถานที่เพื่อแสดงผลคอมโพเนนต์ที่อยู่สำหรับรหัสสถานที่โดยใช้คีย์ API

https://places.googleapis.com/v1/places/GyuEmsRBfy61i59si0?fields=addressComponents&key=YOUR_API_KEY

Places API

Places API จะยอมรับคำขอเป็น URL มาตรฐานที่มีปลายทางบริการที่เฉพาะเจาะจง เช่น /place หรือ /photo ปลายทางยังยอมรับประเภทรูปแบบที่ระบุในคำขอ ไม่ว่าจะเป็น JSON หรือ XML คำขอบริการใช้พารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับปลายทางที่เฉพาะเจาะจงนั้นเพื่อปรับแต่งข้อมูลที่แสดงผล ตัวอย่างต่อไปนี้สร้างคำขอรายละเอียดสถานที่เพื่อแสดงผลคอมโพเนนต์ที่อยู่สำหรับรหัสสถานที่ในรูปแบบ JSON

https://maps.googleapis.com/maps/api/place/details/json?place_id=ChIJrTLr-GyuEmsRBfy61i59si0&fields=address_components&key=YOUR_API_KEY

ในกรณีนี้ บริการจะใช้รหัสสถานที่ที่ให้ไว้เพื่อค้นหาสถานที่ที่ขอและแสดงผลคอมโพเนนต์ที่อยู่ในรูปแบบ JSON

แหล่งข้อมูล

ตารางต่อไปนี้สรุปทรัพยากรที่มีให้บริการผ่าน Places API

Places API Places API (ใหม่) หมายเหตุ
ค้นหาสถานที่ การค้นหาข้อความ (ใหม่) ไม่มีเวอร์ชันใหม่ของ "ค้นหาสถานที่" การค้นหาข้อความ (ใหม่) ได้มาแทนที่แล้ว
การค้นหาใกล้เคียง การค้นหาใกล้เคียง (ใหม่) คำขอทั้งหมดที่ใช้ API ที่มีอยู่ซึ่งมีข้อความค้นหาควรใช้ Text Search (ใหม่) เนื่องจากการค้นหาใกล้เคียง (ใหม่) ไม่รองรับการป้อนข้อความ
การค้นหาข้อความ การค้นหาข้อความ (ใหม่)
รายละเอียดสถานที่ รายละเอียดสถานที่ (ใหม่)
รูปภาพสถานที่ รูปภาพสถานที่ (ใหม่)
สถานที่ในการเติมข้อความอัตโนมัติ เติมข้อความอัตโนมัติ (ใหม่) กำลังแสดงตัวอย่าง
เติมข้อความค้นหาอัตโนมัติ เติมข้อความอัตโนมัติ (ใหม่) เพิ่มความสามารถในการเติมข้อความอัตโนมัติเวอร์ชันดูตัวอย่าง (ใหม่)

วิธีใช้ Places API

ขั้นตอนด้านล่างจะครอบคลุมกรณีการใช้งานทั่วไปสำหรับการใช้บริการ Places API ระหว่างที่สร้างโซลูชัน คุณจะใช้ปลายทางเพิ่มเติม เช่น "การค้นหาใกล้เคียง" และ "รูปภาพสถานที่" ได้
1 ตั้งค่า เริ่มต้นจากตั้งค่าโปรเจ็กต์ Google Cloud และทำตามวิธีการตั้งค่าให้เสร็จสิ้น จากนั้นดูวิธีใช้คีย์ API สำหรับ Places API (ใหม่) คุณจะใช้โทเค็น OAuth ได้ด้วย
2 ลองใช้การค้นหาข้อความแบบพื้นฐาน ค้นหาข้อความแบบง่ายโดยใช้ Text Search (ใหม่) หรือ Text Search
3 ใช้รหัสสถานที่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม Google Maps Platform API จํานวนมากจะแสดงรหัสสถานที่เป็นส่วนหนึ่งของการตอบกลับ ใช้รหัสสถานที่เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ ดูรายละเอียดสถานที่ (ใหม่) และรายละเอียดสถานที่
4 ถ่ายภาพสถานที่ บริการ Place Photo ช่วยให้คุณเข้าถึงรูปภาพหลายล้านภาพที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ Places ใช้รูปภาพสถานที่ (ใหม่) หรือรายละเอียดสถานที่ เพื่อเข้าถึงรูปภาพของสถานที่